ส่วน รฟม.จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อคงสัดส่วนในการถือหุ้นใน BMCL ที่ 25% หรือไม่นั้น ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาความเหมาะสมโดยมีนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้า และภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้คณะกรรมการ รฟม.จะประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังจากนั้นจะสรุปเสนอให้ ครม.พิจารณาก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 11 พ.ย.นี้
“หลักในการพิจารณาว่ารฟม.จะเพิ่มทุนเพื่อคงสัดส่วน 25% จะต้องคำนึงถึงผลตอบแทนทางการเงิน และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการถือหุ้นสัดส่วน 25% ซึ่งคณะทำงานจะต้องไปพิจารณารายละเอียดข้อดีข้อเสียมาและทางเลือกให้คณะกรรมการรฟม.พิจารณา" นางสาวรัชนี กล่าว
ทั้งนี้ เดิม ครม.มีมติให้ รฟม.ถือหุ้นใน BMCL ไม่ต่ำกว่า 25% เพื่อให้รฟม.สามารถกำกับดูแลการดำเนินงานตามนโยบายภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตาม หาก รฟม.ไม่คงสัดส่วนดังกล่าว ก็ยังเห็นว่าสามารถกำกับดูแลต่อไปได้ในฐานะเจ้าของสัญญาสัมปทานเดินรถ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เพื่อพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายว่ามติเห็นชอบดังกล่าวจะขัดต่อมติครม.หรือไม่ โดยสรุปว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนถือหุ้นจะต้องเสนอครม.พิจารณา
นางสาวรัชนี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานของนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม. ซึ่งจะต้องเร่งรัดการลงนามสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 5 สายทาง ให้ได้ภายในปี 58 ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงมีนบุรี-ตลิ่งชัน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ