(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งกรอบแคบรอตัวเลข GDP จีน-ตลาดหุ้นเอเชียบวก

อย่างไรก็ตาม หากออกมาต่ำกว่า 7.8% หรืออยู่ที่ประมาณ 7.5-7.8% ถือว่ายังจะไม่ส่งผลกระทบ แต่หากต่ำกว่า 7.5% จะส่งผลให้เกิดแรงขายในตลาดออกมา

ส่วนตลาดภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกทั้งหมด

พร้อมให้แนวรับของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ 1,460 จุด แนวต้าน 1,480 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(17 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,371.65 จุด ลดลง 2.18 จุด (-0.01%)ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,733.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.61 จุด (+0.67%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,863.15 จุด เพิ่มขึ้น 23.72 จุด (+0.62%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 3.09 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 166.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 41.65 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.85 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.52 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.10 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(17 ต.ค.)ที่ 1,469.09 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด(+0.32%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 200.38 ล้านบาท เมื่อ 17 ต.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(17 ต.ค.)ที่ 100.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.62 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(17 ต.ค.)ที่ 3.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.00/01 มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 30.96-31.10
• บาทแข็งค่าแตะ 31.03 บาทต่อดอลลาร์ขานรับข่าวสหรัฐเพิ่มเพดานหนี้สำเร็จทันเส้นตาย ธปท.ระบุหลังเฟดคงคิวอี เงินทะลัก 3 พันล้านดอลลาร์ แนะธุรกิจใช้เงินท้องถิ่นมากขึ้น ป้องกันดอลลาร์ผันผวน ด้าน"ณรงค์ชัย"เตือนสหรัฐยังเสี่ยงสูงมองตลอดเงินผันผวน ขณะที่สแตนชาร์ตคาดเฟดลดใช้คิวอีสิ้นไตรมาส 1 ปีหน้า
• น.ส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี)ในปีหน้าเอาไว้ถึง 5.5% เนื่องจากเชื่อมั่นว่าในปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะมีแรงขับเคลื่อนพิเศษคือการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศและการลงทุนของเอกชน
• สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย(ทีไอเอสไอ) เดือน ก.ย. ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 มาอยู่ที่ 90.4 เทียบกับ 91.3 ในเดือน ส.ค.เนื่องจากองค์ประกอบทั้งยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ ปรับตัวลดลง โดยดัชนีที่ 90.4 ถือว่าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 100 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 และต่ำที่สุดในรอบ 23 เดือน
• คลังเดินหน้าออกดอลลาร์บอนด์หนุนโครงการลงทุน 2 ล้านล้าน ตั้งเป้าปีละไม่เกิน 4.5 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี เผยนักลงทุนคลายกังวลหลังสหรัฐฯ ขยายเพดานหนี้สาธารณะได้สำเร็จ ระบุไม่กระทบกับไทยเหตุลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มาก
• ประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผยว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% จะไม่มีผลกระตุ้นให้ยอดสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้นเนื่องจากคนซื้อรถส่วนใหญ่จะคำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระค่างวดมากกว่าดอกเบี้ย และคาดว่าดอกเบี้ยเช่าซื้อทั้งระบบก็จะยังไม่มีการปรับขึ้นในช่วงนี้อีกด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

• AH (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 19 บาท แม้ทิศทางการฟื้นตัวของกลุ่มยานยนต์จะยังคงเปราะบาง แต่จากราคาในปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 9.0 เท่า และ P/BV ที่ 1.1 เท่า ต่ำกว่า SAT และ STANLY ประกอบกับระยะต่อไปมองตลาดจะหันกลับมาสนใจโอกาสที่ AH จะได้รับเงินสินไหมประกันที่อยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติมเข้ามาราว 300 ล้านบาทใน 2H56
• PS (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 28.80 บาท แนวโน้ม 3Q56 ยังคงโดดเด่น คาดยอดขายราว 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% YoY และ 7% QoQ และคาดกำไรสุทธิที่ราว 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 51% YoY แนวโน้ม 4Q56 คาดยอดขายน่าจะดีต่อเนื่องจากการเปิดโครงการใหม่ 4 แห่งมูลค่า 3 พันล้านบาท และคาดว่าจะได้เห็นการรับรู้รายได้เข้ามาราว 1 หมื่นล้านบาท ประเมินกำไรสุทธิปี 56 ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% YoY
• KBANK(เคทีบี)"เก็งกำไร"เป้า 220 บาท พบว่า ผลประกอบการงวด 3Q56 ที่เพิ่งประกาศออกมาหลังตลาดหุ้นไทยปิดทำการเมื่อวานเป็นไปตามคาดการณ์ตลาด โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 10,713 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นทั้ง y-o-y และ q-o-q)
• INTUCH (ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 119 บาท กำไรยังมีแนวโน้มดี ทั้งจากรายได้โฆษณาและสื่อที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง และบริษัทลูกที่เติบโตต่อเนื่อง โดย ADVANC จะได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลงบนเครือข่าย 3G อัตราภาษีจ่ายลดลงเป็น 20% จาก 23% ในปีก่อน ส่วน THCOM พลิกกลับมีกำไร บริษัทจ่ายปันผลดี โดยคาดการณ์ Dividend Yield ปี 56-57 เท่ากับ 5% และ 6% ตามลำดับ (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
• CK (ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้าใหม่ 28 บาท คาดว่าการนำหุ้น CK Power เข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วยหนุนกำไรไตรมาส 3/56 ให้เพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาท,ปัจจุบันมี Backlog อยู่ราว 1.27 แสนล้านบาท รองรับรายได้ต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 4 ปี และเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทของภาครัฐ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า