การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,484.88 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,471.65 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดช่วงเช้า เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นทั่วโลก จากปัจจัยต่อเนื่องที่สหรัฐฯสามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องของการขยายเพดานหนี้สาธารณะ รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ซึ่งมองว่าจากการคลายความกังวลในประเด็นดังกล่าว
ประกอบกับ มีการคาดการณ์ว่าในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในครั้งหน้าจะยังคงมาตรการ QE ซึ่งจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการแกว่งตัวขึ้นอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากยังมีเงินทุนไหลเข้า ขณะที่ระหว่างทางก็มีการ Take Profit ของนักลงทุนบางกลุ่ม
พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,460 จุด และแนวต้าน 1,475-1,500 จุด
ขณะที่นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุดเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เนื่องจากตัวเลข GDP ของจีนงวดไตรมาส 3/56 ออกมาดี เติบโต 7.8% เทียบกับ 7.5% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า
นอกจากนี้ ยังคาดว่าทางสหรัฐฯจะไม่ลดขนาดมาตรการ QE ลงในช่วงนี้ ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดแรงซื้อเข้ามา อย่างไรก็ดี นักลงทุนก็มีการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว โดยอาจจะดูที่ผลกำไรดี เป็นต้น พร้อมให้แนวรับของดัชนีวันนี้ที่ 1,470 จุด แนวต้าน 1,482-1,488 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,016.68 ล้านบาท ปิดที่ 9.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 877.80 ล้านบาท ปิดที่ 191.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 872.48 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท KTB มูลค่าการซื้อขาย 830.91 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 661.89 ล้านบาท ปิดที่ 320.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท