(เพิ่มเติม) HEMRAJ คงเป้ารายได้ปี 56โต 40%กำไรโตตาม,เปิดขายนิคมฯชลบุรีเฟส 2 ปลายปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 18, 2013 15:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ) คงเป้ารายได้ปี 56 เติบโต 40% แตะ 9 พันล้านบาท จากธุรกิจของบริษัทเติบโขึ้น ขณะที่กำไรก็คาดว่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน ขณะที่บริษัทเตรียมเปิดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมชลบุรีเฟส 2 ที่มีขนาดพื้นที่ 700 ไร่ในช่วงไตรมาส 4/56 ส่วนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเครือของบริษัททั้ง 7 แห่ง ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้

นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผน และนักลงทุนสัมพันธ์ HEMRAJ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าว่ากำไรปีนี้จะเติบโตมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 2.3 พันล้านบาท ตามรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 40 % มาแตะ 9 พันล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้แล้วกว่า 4.3 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายที่ดินในปีนี้ที่ 2.1 พันล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดขายแล้วกว่า 1,978 ไร่

บริษัทมีแผนจะเปิดขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมชลบุรีเฟส 2 ในช่วงไตรมาส 4/56 ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าที่สนใจเข้ามาเจรจาบ้างแล้ว เบื้องต้นมีประมาณ 3 รายใหญ่ ขณะที่สถานการน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศนั้น ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมของบริษัททั้ง 7 แห่ง ทำให้ลูกค้าของบริษัทยังมีความมั่นใจและเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นายเผ่าพิทยา กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ตามเป้าหมายเดิมในช่วงไตรมาส 4/56 คาดว่าจะขายสิทธิในพื้นที่โรงงานให้เช่ากว่า 1.5 แสนตารางเมตรเป็นสินทรัพย์ของกองทุน ขณะที่ในปี 57 บริษัทตั้งงบลงทุนเบื้องต้นไว้ที่ 6-7 พันล้านบาท จากปีนี้ใช้ไป 8.5 พันล้านบาท โดยใช้ซื้อที่ดิน 30% และพัฒนานิคมฯ 30% ส่วนที่เหลือจะใช้ในการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคต่างๆ

ด้านนายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ HEMRAJ กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทได้กระจายรายได้ไปในหลายธุรกิจ ทั้งนิคมอุตสาหกรรม บริการสาธารณูปโภค และอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ที่ค่อนข้างเข็งแกร่งและเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและ มีความแน่นอน

ส่วนนายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล รองกรรมการผู้จัดการ HEMRAJ เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า SPP ตามแผนที่วางไว้ หลังจากในปีนี้มีโรงไฟฟ้า 1 แห่งสามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ ส่วนที่เหลืออีก 8 แห่งบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% ในแต่ละโครงการ โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนตั้งแต่ปี 57-60 ทั้งหมดกว่า 2 พันล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น

นอกจากนั้น บริษัทยังศึกษาการขยายธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม ลาว และกำพูชา

“เราได้เข้าไปศึกษาในหลายๆประเทศแต่ยังไม่ได้เข้าไปขยาย เพราะยังมีหลายๆอย่างที่ไม่ตรงกับเป้าหมายของบริษัทฯ เพราะบริษัทฯมุ่งเน้นที่จะขยายนิคมในรูปแบบที่เน้นให้บริการสาธารณูปโภคมากกว่า"นายวิวัฒน์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ