การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,485.21 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,471.65 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 523 หลักทรัพย์ ลดลง 191 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 185 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวันเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นในแถบเอเชีย โดยได้รับอานิสงส์จากเพดานหนี้สหรัฐคลี่คลาย ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่หันกลับมาให้ความสนใจในภาพรวมเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในครั้งหน้าคาดว่าจะคงมาตรการ QE ต่อไป ประกอบกับมีปัจจัยบวกมาจากตัวเลข GDP ของจีนที่ออกมาดีตามคาดเติบโต 7.8%
"ตลาดวันนี้ผันผวนในแดนบวกทั้งวัน ยังคงเป็นอานิสงส์เรื่องคลี่คลายเพดานหนี้สหรัฐฯ แต่ในแง่ของภาพรวมเศรษฐกิจคนก็กลับมาให้ความสนใจมากขึ้น และก็จะพูดถึงเรื่อง QE ที่มองว่าจะมีการคงมาตรการ QE ในการประชุมเฟด ทั้งนี้ตลาดยังคงความผันผวนอยู่ โดยในระยะสั้นก็ได้รับอานิสงค์ในเชิงบวกไปก่อน"น.ส.ธีรดา กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ เนื่องจากจะมีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มแบงค์อีกครั้ง รวมถึงประเด็นทางการเมืองในประเทศที่เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงรอการพิจารณาของวุฒิสภาที่จะแล้วเสร็จในระยะเวลา 30 วัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา
รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีประเด็นหลักมาจากคำพิพากษาของศาลโลกในคดีปราสาทเขาพระวิหารที่จะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนหน้า ซึ่งอาจจะเข้ามากดดันตลาดฯได้ ทำให้ดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด พร้อมให้แนวรับที่ 1,420-1,440 จุด และแนวต้าน 1,500-1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,227.26 ล้านบาท ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,017.38 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,743.14 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,660.05 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,395.29 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท