ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่จะนำหุ้นเดิมออกมาเสนอขาย คือ นายวิเวก ดาวัน, บริษัท โกลเบ๊กช์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท จี.เปรมจี เทรดดิ้ง พีทีอี จำกัด
ส่วน บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ ยังคงจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 129,787,408 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
นอกจากนี้ ในวันแรกที่หุ้นของบริษัทเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ได้แก่ น.ส.สมิหรา ชาห์, นายอิษฎ์ชาญ ชาห์, น.ส.นิชิต้า ชาห์, นายพระรามจิต ซิงค์ สาว์นีย์, นายสุตีล กวานเดย์, นายวิเวก ดาวัน และนายโทมัส อับบราฮัม จะขายหุ้นของบริษัทฯที่ตนถืออยู่จำนวนรวมกันไม่เกิน 51,955,000 หุ้น ให้แก่นักลงทุนรายใหญ่ (Corner stone และ/หรือ Anchor) หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 6 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯบนกระดานรายใหญ่ คาดว่าราคาเสนอขายจะเท่ากับหรือไม่น้อยกว่าราคาที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม จะไม่มีบุคคลที่ได้รับการจัดสรรหุ้นมากกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนโดยบริษัท และการขายหุ้นสามัญบนกระดานรายใหญ่
บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ ประกอบธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตทั้งสิ้น 3 โรง โดย 2 โรงตั้งอยู่ในประเทศไทย และอีก 1 โรงตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย บริษัทมีกำลังการผลิตแคปซูลเจลนิ่มรวม 2.1 พันล้านแคปซูลต่อปี ซึ่งจะเพิ่มเป็น 3.8 พันล้านแคปซูลต่อปี หลังขยายสายการผลิตเพิ่มอีก 8 สายที่โรงงานในประเทศไทย ซึ่งจะติดตั้งแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.57
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ คือ กลุ่มตระกูลชาห์ ถือหุ้น 533,210,240 หุ้น หรือคิดเป็น 72.50% หลังเสนอขาย IPO ครั้งนี้แล้วจะลดการถือหุ้นลงเหลือ 465,246,932 หุ้น หรือคิดเป็น 53.77%