ปัจจุบัน FSMART มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น400 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 800 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 300 ล้านบาท แบ่งออกเป็นจำนวนหุ้นสามัญ 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) FORTH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 61.00ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัท
ด้านนายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ขยายจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมทั่วประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยปี 56 ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินให้ได้ 30,000 ตู้ภายในสิ้นปี โดย 6 เดือนแรกบริษัทฯมีจำนวนตู้เติมเงินทั่วประเทศอยู่ที่ 27,845 ตู้ และจะเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินเป็น 40,000 ตู้ในปี 57 ซึ่งจะช่วยให้ยอดเติมเงินรวมของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วยเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดของบริษัทอีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการพัฒนาตู้เติมเงินประเภทใหม่ ๆ ที่สามารถให้บริการได้หลากหลายในเครื่องเดียว เช่น เครื่องรับชำระเงินแบบอัตโนมัติสำหรับร้านค้า (Bill Payment Machine) ที่สามารถเติมเงินโทรศัพท์มือถือ และบริการการโอนเงิน การชำระบัตรเครดิต การจ่ายชำระค่าสาธารณูปโภคได้ในเครื่องเดียว, ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการร่วมกับตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตู้ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการทดสอบตลาด ก่อนเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในอนาคตต่อไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มให้ตู้เติมเงินของบริษัทมีความหลากหลาย อีกทั้งยังช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้นด้วย
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ FSMART กล่าวว่า FSMART จะได้รับการตอบรับที่ดีในการเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ด้วยองค์ประกอบทางธุรกิจที่เติบโตตามการใช้โทรศัพท์ถือที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ประกอบกับจำนวนตู้เติมเงินที่ให้บริการอยู่ทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
บริษัทยังพัฒนารูปแบบการให้บริการตู้เติมเงินประเภทใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสหารายได้ให้มากขึ้น ทำให้การดำเนินธุรกิจมีความแข็งแกร่งในเรื่องของรายได้ เห็นได้จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 56 บริษัทฯมีรายได้รวม 366.81ล้านบาท กำไรสุทธิ 40.17 ล้านบาท เติบโตจากปี 55 ทั้งปีที่มีรายได้รวม576.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15.26 ล้านบาท อีกทั้งยังสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับตู้เติมเงินออนไลน์ได้มากที่สุดจนถึงปัจจุบัน