ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 65,829 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 24, 2013 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 65,829 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 42,072 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 63.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,858 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,705 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB21DA (รุ่นอายุ 5.7 ปี, 3.7 ปี และ 8.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,308 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW156A) มูลค่า 424.3 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC16OA) มูลค่า 213.2 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO169A) มูลค่า 140.8 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 778.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,435 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,200 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,159 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.43% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.03%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-3 bps. จากแรงซื้อส่วนใหญ่ของนักลงทุนต่างชาติ โดยตลาดรอติดตามผลการประชุม FOMC กลางสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดคาดว่า Fed น่าจะเลื่อนการลดขนาด QE ออกไปเป็นการประชุมเดือน ธ.ค. หรือต้นปีหน้า ทำให้มีเงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ ด้านนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 7,159 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ