BH เล็งใช้โฮลดิ้งใหม่ที่ฮ่องกงรุกธุรกิจรพ.หลายประเทศ พร้อมขยายในไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2013 11:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าว บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ในฮ่องกง ชื่อ บริษัท ไลฟ์ แอนด์ ลองจิวิตี้ จำกัด ซึ่งมี BH ถือหุ้น 100% เป็นการเตรียมความพร้อมและรองรับการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจเฮลแคร์ในหลายประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแค่ในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจุบันได้มีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการของโรงพยาบาลหลายแห่งในต่างประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป
"บริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นมาใหม่ในฮ่องกงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรองรับการลงทุนในต่างประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแค่ในเอเชียอย่างเดียว ที่เราเลือกจัดตั้งในฮ่องกงมองว่าเป็นเซ็นเตอร์ และมีความสะดวกในแง่การทำธุรกรรมต่างๆ การลงทุนของเราในต่างประเทศก็ค่อนข้างเปิดกว้าง ตอนนี้เราก็มีพูดคุยเพื่อซื้อกิจการโรงพยาบาลในต่างประเทศอยู่หลายที่ แต่ยังไม่ถึงขั้นมีข้อสรุปออกมา แต่จริงๆแล้วเดิมเรามีบริษัทย่อย BIL เราก็ได้ยุติไปแล้ว การจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่แห่งนี้ก็เป็นเครื่องมือในการขยายการลงทุนในต่างประเทศ"แหล่งข่าว กล่าว

พร้อมกันนั่น บริษัทก็ยังเดินหน้าขยายกิจการในประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยของ รพ.บำรุงราษฎร์ อีก 37 เตียง จากปัจจุบันที่มีเตียงที่อยู่ในการ Operate จำนวน 505 เตียง ทำให้สิ้นปี 56 จะมีจำนวนเตียงเพิ่มเป็น 542 เตียง รวมทั้งมีแผนก่อสร้างอาคารใหม่บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 57 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปแบบ โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 2 ปี

นอกจากนั้น ยังมีแผนสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ขนาดประมาณ 100 เตียงบนถนนเพชรบุรี เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 5 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงกลางปี 57 และใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 3 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปแบบและเตรียมยื่นแผนจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)

แหล่งข่าว ยังเปิดเผยผลประกอบการในปี 56 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท โคยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ราว 7 พันล้านบาท แต่แนวโน้มทั้งในปีนี้รายได้อาจจะเติบโตไม่ถึงช่วงสูงสุดที่ 15% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้เข้าใช้บริการทางการแพทย์ แต่ก็ยังมีผู้ป่วยจากต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทยในกลุ่มรายได้สูงเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็น 60% ของกลุ่มผู้ป่วยที่เข้าใช้บริการทั้งหมด ทำให้ยังสามารถรายได้ที่ดี ประกอบกับในปี 55 บริษัทมีฐานรายได้ค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้หันมาเน้นการสร้างอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ให้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนและการใช้ทรัพยากรบุคคลให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งส่งผลให้มาร์จิ้นจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

"เป้ารายได้ปีนี้คาดว่าโตในช่วง 10-15% แต่การที่จะเติบโตสูงสุดถึง 15% คงเหนื่อยหน่อย โอกาสน้อยมาก เพราะเศรษฐกิจชะลอตัวกระทบส่วนหนึ่งทำให้ผู้ป่วยใช้บริการลดลงแต่ไม่มาก...และอีกอย่างในปีที่แล้วฐานรายได้เราสูงด้วย ทำให้ปีนี้จะโตถึง 15% คงจะลำบาก แต่เราก็ไป focus การสร้าง margin ให้เติบโตแทนโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคคลากรในโรงพยามและลดต้นทุนต่างๆที่ไม่จำเป็นลง แม้ว่า top line เราจะโตมากไม่ได้ แต่ปรับตรงนี้แล้วก็จะทำให้ margin โตอย่างมีนัยสำคัญ"แหล่งข่าว กล่าว

ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/56 แนวโน้มคาดว่าจะออกมาเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนทำให้มีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งปกติไตรมาส 3 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่มีผลประกอบการออกมาดีที่สุด ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/56 คาดว่าจะลดลงจากไตรมาส 3/56

"ไตรมาส 4/56 ผลประกอบการคงสู้ไตรมาส 3/56 ไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามไซเคิลของธุรกิจโรงพยาบาลที่ไตรมาส 1 และไตรมาส 4 จะเป็นช่วงกลาง ไตรมาส 3 จะเป็นช่วงพีค มีผู้ป่วยเยอะ เพราะเป็นหน้าฝน ไตรมาส 2 จะเป็นช่วงที่ต่ำสุด เพราะมีวันหยุดเยอะ"แหล่งข่าว กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ