"เราก็ยังลุ้นว่าทั้งปีภาพรวมกำไรจะออกมาค่อนข้างดีและอาจจะมีการจ่ายปันผลตามนโยบายที่เคยให้ไว้ที่ 40% ของกำไรสุทธิ"นายสมชาย กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/56 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมสุขภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ยอดขายจะมีการเติบโตอย่างมาก รวมถึงบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีกประมาณ 3-4 ชุด เพื่อกระตุ้นยอดขายปลายปี ล่าสุดได้เปิดตัวสุขภัณฑ์ในกลุ่ม Green Innovation รุ่นโนวีต้า สามารถประหยัดน้ำในการชำระล้างได้สูงสุดในโลก โดยใช้น้ำน้อยเพียง 2.4 ลิตร/ครั้ง
นายสมชาย กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมแผนขยายตลาดต่างประเทศ คาดว่าภายในปลายปีนี้จะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในเวียดนามและพม่าได้ จากนั้นในช่วงต้นปีหน้าจะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในอินโดนีเซีย พร้อมทั้งรุกขยายตลาดในประเทศ โดยเฉพาะการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ทั้งในสาขาของบุญถาวร โฮมโปร และโกลบอลเฮาส์ จากปัจจุบันที่จำหน่ายผ่านร้านไทวัสดุเป็นหลัก เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 7% ในปี 57 จากปีนี้อยู่ที่ 5%
ขณเดียวกัน บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศเป็น 50:50 จากเดิม 30:70 เพื่อให้เกิดความสมดุลไม่อิงไปตลาดใดตลาดหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงและเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจที่เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความผันผวน
นอกจากนั้น หลังจากที่ราคาวัสดุและค่าแรงงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดว่าจะมีการปรับราคาขายสินค้าเพิ่มขึ้นราว 5-10%ในปี 57 โดยจะปรับให้ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมสุขภัณฑ์ที่ได้ปรับราคาขายกันไปแล้ว สำหรับมูลค่าตลาดรวมสุขภัณฑ์ในประเทศปีนี้คาดว่ามีมูลค่าอยู่ที่ 5-6 พันล้านบาท ซึ่งปี 57 จะเติบโตอีก 3-5% ลดลงจากอัตราเติบโตในปีนี้ หลังจากมีการเร่งเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนไปมากแล้ว ทำให้คาดว่าจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าจะเปิดตัวลดลง
"ปีหน้าอุตสาหกรรมรวมน่าจะเติบโตได้ 3-5% จากปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตที่ลดลง หลังจากที่ปีนี้ โครงการต่างๆของภาคเอกชน มีการเร่งเปิดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปี 57 น่าจะมีการเปิดในจำนวนที่ลดลง ถึงแม้ว่าจะมีการลงทุนของภาครัฐ 2 ล้านล้านบาทก็ตาม แต่ด้านสุขภัณฑ์แล้วก็ไม่ได้มีการใช้ในจำนวนมากนัก ทำให้ในปีหน้าตลาดรวมจะเติบโตน้อยกว่าปีนี้"นายสมชาย กล่าว