สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B, LB176A และ LB155A (รุ่นอายุ 0.6 ปี, 3.7 ปี และ 1.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,259 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW156A) มูลค่า 212.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC17DA) มูลค่า 110.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP142A) มูลค่า 78.9 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 401.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,869 ล้านบาท
2 กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,857 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,018 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.43% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร โดยวันนี้ ธปท.ได้มีการปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 56 เหลือ 3.7% จากเดิม 4.2% และปรับลดประมาณการณ์มูลค่าการส่งออก เหลือเติบโต 1% จากเดิม 4% ด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแรงซื้อทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 7,018 ล้านบาท