ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 78,043 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2013 18:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ วันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 78,043 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 61,018 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 78.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 13,453 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.2% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 891 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B, LB176A และ LB155A (รุ่นอายุ 0.6 ปี, 3.7 ปี และ 1.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,259 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW156A) มูลค่า 212.2 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC17DA) มูลค่า 110.3 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP142A) มูลค่า 78.9 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 401.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,869 ล้านบาท

2 กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,857 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,018 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.43% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร โดยวันนี้ ธปท.ได้มีการปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 56 เหลือ 3.7% จากเดิม 4.2% และปรับลดประมาณการณ์มูลค่าการส่งออก เหลือเติบโต 1% จากเดิม 4% ด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแรงซื้อทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 7,018 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ