“ขั้นตอนต่อจากนี้คือติดตั้งแผงให้แล้วเสร็จ และดำเนินการประสานงานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ในการตรวจสอบระบบสถานีไฟฟ้าย่อย ทำให้มั่นใจว่าโครงการที่นครสวรรค์จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ตามกำหนดสัญญา และจะรับรู้รายได้และกำไรเต็มปีตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นไป“
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 55 ที่มีรายได้อยู่ที่ 4,478.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 107.05 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ที่ลพบุรีเข้ามาเต็มปี ขณะที่ปริมาณขายไบโอดีเซลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมามีการปรับปรุงโรงงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น และผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทออกมาในทิศทางที่ดีตามเป้าหมายที่วางไว้