ในปี 57 บริษัทคาดว่า จะมีรายได้แตะระดับ 3 พันล้านบาท จากปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท โดยมาจากรายได้ค่าเช่าอาคารสำนักงานและรายได้จากการโอนโครงการแนวราบ
โดยในปีนี้บริษัทมีการรับรู้รายได้จากโครงการเก่าในอดีตที่ทยอยโอนจำนวน 600 ล้านบาท และในปีหน้าบริษัทได้ตั้งเป้าการรับรู้รายได้ที่ 1.9 พันล้านบาท และมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่ 2.1 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป จากการปรับโครงสร้างและพัฒนาบุคลากรและระบบของบริษัท พร้อมรุกเดินหน้าธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง ซึ่งในปี 57 จะมีการเปิดโครงการแนวราบจำนวน 10 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล มูลค่าราว 1.1 หมื่นล้านบาท
"คาดว่าจะมีกำไรตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป หลังจากปีนี้เราได้มีการปรับระบบโครงสร้างต่างของบริษัท และปีหน้าก็จะรุกธุรกิจโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์อย่างจริงจัง โดยเน้นลูกค้าในกลุ่มระดับกลาง ที่เราขอแชร์แค่ 1.25% จากมูลค่าตลาด 8.7 แสนล้านบาท แต่การพัฒนาโครงการต่อไปก็ยังไม่ไปต่างจังหวัด เน้นในกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน"นายธนพล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนในการซื้อที่ดินในปี 57 เพิ่มอีกจำนวน 8 แปลง มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาโครงการในปีต่อไป และในปีนี้บริษัทได้ลงทุนซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อรองรับโครงการใหม่ในปี 57 ทั้ง 10 โครงการ
สำหรับแผนการขายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักในปี 57 บริษัทได้เล็งนำที่ดินที่จังหวัดกระบี่ ,อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.เชียงราย และที่ดินสนามกอลฟ์ มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท โดยอาจจะมีการจัดประมูลให้กับผู้สนใจ ซึ่งจะนำเงินที่ได้มาใช้สำหรับการพัฒนาโครงการแนวราบในอนาคต
"เราไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุนหรือตั้งกองทุนอสังหาฯ เพราะเรายังมีที่ดินที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักที่เราจะขายในปีหน้ามูลค่า 1 พันกว่าล้านบาท เพื่อนำเงินมาใช้พัฒนาโครงการในปีต่อไป และเรายังมีศักยภาพในการกู้ได้อีก เพราะ D/E เราอยู่ที่ 0.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าตลาดที่ 1.5 เท่า"นายธนพล กล่าว
ด้านนายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการ GOLD กล่าวว่า บริษัทได้มีแผนการรุกธุรกิจแนวราบ โดยใช้แบรนด์ใหม่ 3 แบรนด์ ใด้แก่ โกลเด้น วิลเลจ ,โกลเด้น ทาวน์ และโกลเด้น อเวนิว โดยตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ปีนี้ที่ 600 ล้านบาท และปี 59 เพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท และปี 61 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท โดยจะมีโครงการรองรับใน 5 ปีข้างหน้า (56-61) จำนวน 35 โครงการ