สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ....ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาฯนั้น ยอมรับว่าจะกระทบกับรายได้ของ KTC หากผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ เนื่องจากสาระสำคัญ คือ การปรับการคำนวณอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและค่าธรรมเนียมยอดคงค้างที่ผู้ถือบัตรค้างชำระ ณ วันที่ชำระไม่ครบ ขณะที่ฐานลูกค้าบัตรเครดิตราว 30% เป็นลูกค้าที่ผ่อนชำระ แต่ขณะนี้บริษัทได้มีการศึกษาผลกระทบ พร้อมทั้งเตรียมปรับกลยุทธ์รับสถานการณ์หากมีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้ว
นางพิทยา กล่าวอีกว่า ปัจจัยการเมืองในประเทศขณะนี้อาจกระทบกับกำลังซื้อในระยะสั้นเท่านั้น แต่คงไม่ได้เหมาถึงยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตทั้งปีนี้ โดยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นช่วงที่มีกำลังซื้อและอัตราการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงสุด จากรอบ 9 เดือนที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ KTC เติบโตแล้ว 5%
ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาทออกแคมเปญ "ใช้ 1 หมื่น รับ 1 พันคะแนน"เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร เชื่อว่าจะผลักดันการเติบโตการใช้จ่ายปลายปีนี้ให้เติบโตถึง 30% และทั้งปีน่าจะเติบโตได้ 15% สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมบัตรเครดิตที่จะเติบโต 10-13% แต่คงต้องติดตามคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด แม้ว่าภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)อยู่ที่ระดับ 2.7% ณ สิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถรักษาให้อยู่ในระดับนี้จนถึงสิ้นปี