ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 445 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 170 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดย บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์(AI)จำนวน 275 ล้านหุ้น ซึ่งออกจำหน่ายในคราวเดียวกัน โดยเป็นการเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ AI จำนวน 250 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 195 ล้านหุ้น
“AI จะนำหุ้นสามัญเดิมออกเสนอขายจำนวน 275 ล้านหุ้น โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ AI จำนวน 250 ล้านหุ้น โดยให้สิทธิการจองซื้อในสัดส่วน 2 หุ้นเดิม มีสิทธิจองซื้อหุ้น AIE ได้ 1 หุ้น(2:1)ส่วนอีก 195 ล้านหุ้น เป็นการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป โดย AIE จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)"นายอนุรักษ์ กล่าว
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ในการลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม และนำไปปรับปรุงระบบกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล รวมถึงการก่อสร้างถังจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป ลงทุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ชำระคืนหนี้สถาบันการเงินบางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลประมาณ 70% ส่วนอีก 30% มาจากจำหน่าย น้ำมันปาล์ม เพื่อใช้สำหรับบริโภค โดยบริษัทฯประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 3,400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการกลั่นน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 1,150 ตันต่อวัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 350 ตันต่อวัน ซึ่งจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯสามารถรองรับคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
"ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 9% อัตรากำไรสุทธิ 4.4% ซึ่งถือเป็นอัตรากำไรที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยเป็นผลจากที่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"นายอนุรักษ์ กล่าว
AIE มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอมินัลส์ จำกัด(AIPT)ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือและคลังน้ำมันเชื้อเพลิง 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร และบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด(AIL)ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งทางทะเล ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเรือขนส่งคุณภาพสูงให้บริการรวม 2 ลำ คือ“เรือธารีรัตนา 1"และ“เรือธารีรัตนา 3"ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้โดยเฉลี่ยต่อปีได้เป็นจำนวนมาก
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า AIE เตรียมเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุนตามจังหวัดได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เนื่องจาก AIE เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดีเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากฟอสซิล รวมถึงธุรกิจคลังน้ำมันและการขนส่งน้ำมันทางทะเล ดังนั้น เชื่อว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเข้าใจระหว่างนักลงทุน และบริษัทได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนทั่วทุกจังหวัดอย่างแน่นอน