ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยนั้นธนาคารจะไม่เน้นการแข่งขันทางด้านราคา โดยจะให้ความสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนปรับปรุงผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของ Product Mix ให้มีความหลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น อาทิ การให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในลักษณะผ่อนดาวน์ หรือการจ่ายค่างวดตามฤดูกาลเก็บเกี่ยว เป็นต้น คาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนในแต่ละส่วนงานต้นปี 57
ด้านธุรกิจตลาดทุน ซึ่งได้แก่ บมจ.ทุนภัทร บล.ภัทร บล.เคเคเทรด บลจ.ภัทร นั้น นายกฤติยา วีรบุรุษ ประธานธุรกิจตลาดทุน เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้ให้บริการครบทุกมิติ เริ่มตั้งแต่การให้บริการในตลาดแรก (Primary Market) ผ่านบริการ Investment Banking ต่อมาด้วยบริการลงทุนในตลาดรอง (Secondary Market) ที่จะให้บริการกับลูกค้าสถาบัน และลูกค้าบุคคล ซึ่งในปัจจุบัน ลูกค้าบุคคลครอบคลุมกลุ่ม Private Wealth และจะมีการแนะนำการให้บริการด้านการวางแผนการลงทุนส่วนบุคคล ภายใต้ชื่อ Phatra Edge (เงินลงทุนตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป) ในงาน SET in The City ที่บูธธนาคารเกียรตินาคิน ระหว่างวันที่ 21-24 พ.ย.56 นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจตลาดทุนยังให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายใต้ บล.เคเคเทรด และธุรกิจจัดการกองทุนภายใต้ บลจ.ภัทร อีกด้วย
การดำเนินธุรกิจต่อจากนี้มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ขยายสินเชื่ออย่างต่อเนื่องทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยภาพรวมของผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุด 30 ก.ย.56) มีกำไรสุทธิรวม 3,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 246,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากสิ้นปีก่อน ในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ สินเชื่อมีการขยายตัวต่อเนื่อง มียอดสินเชื่อรวมอยู่ที่ 186,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% สำหรับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Spread) อยู่ที่ 4.0% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 3.5% โดยมีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 109.7% สำหรับหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) มีจำนวน 212,382 ล้านบาท