นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ มีโอกาสรีบาวน์หลังจากวานนี้ปรับตัวลงไปแรง เพราะเริ่มมีความหวังในชั้นวุฒิสภาพที่อาจจะไม่ไม่โหวตรับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่างพ.ร.บ.นี้จะถุกแขวนไป 6 เดือน ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายไประยะหนึ่ง
"คาดว่าตลาดวันนี้แกว่งตัวแคบๆ รีบาวน์สั้นๆ ต้องติดตามสถานการณ์การเมือง ก็ wait and see ไปก่อน" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวลดลง ได้แก่ ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับลง 174 จุด
ให้แนวต้านไว้ที่ 1,400 จุด แนวรับที่ 1,380 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(4 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,639.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.57 จุด (+0.15%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,767.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด (+0.36%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,936.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด(+0.37%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 118.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 9.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 123.99 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.45 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.92 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการ และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(4 พ.ย.)ที่ 1,388.40 จุด ลดลง 40.68 จุด(-2.85%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 776.75 ล้านบาท เมื่อ 4 พ.ย.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(4 พ.ย.)ที่ 94.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.25 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(4 พ.ย.)ที่ 3.79 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.32/34 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ กังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ
- นายกฯ-เพื่อไทยยันเดินหน้ากฎหมายนิรโทษฯ สุดซอย เมินม็อบยึดราชดำเนินปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ
- การเมืองเดือดกดหุ้นร่วงกว่า 40 จุด ดัชนีหลุด 1,400 นักวิเคราะห์เตือนปัจจัยรุมเร้าตลอด 1 เดือน แต่มองไม่ถึงขั้นยุบสภา ระบุนักลงทุนต่างชาติ จับตาสถานการณ์และชะลอการลงทุน ขณะที่บาทอ่อนยวบแตะ 31.34 บาทต่อดอลลาร์วิตกการเมือง "กิตติรัตน์" ห่วงการเมืองส่งผลกระทบเศรษฐกิจไตรมาส 4
- "หอการค้าไทย-ต่างประเทศ" ออกแถลงการณ์ค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมระบุ ก.ม.ล้างผิดคดีคอร์รัปชัน สูญเสียความเชื่อมั่นลงทุน-ธุรกิจละเมิดระบบยุติธรรม ผวาสถานการณ์ปลายรุนแรงซ้ำเติมเศรษฐกิจ ภาคีคอร์รัปชันยื่นวุฒิสภาคว่ำก.ม.เผยได้ผู้ร่วมลงชื่อค้านแล้ว 4 แสนคน
- ธุรกิจ"ค้าปลีก-รถยนต์"รับมือวิกฤติกำลังซื้ออัดฉีดงบกว่าพันล้าน ฟื้นตลาดเดอะมอลล์งัด "ลอยัลตี้โปรแกรม" ผนึกสถาบันการเงิน โปรโมลั่นถี่ "ผ่อน 0% นาน 10 เดือน" หวังเร่งการตัดสินใจซื้อ ด้าน "รถยนต์" ชูกลยุทธ์ขายความต่างเชื่อกำลังซื้อไม่ซบ เหตุความจำเป็นใช้รถยังมีสะท้อนผ่านยอดขายเทไปที่กลุ่มรถเล็กอีโค-คาร์ บี-เซ็กเมนท์ชัดเจน ขณะที่ "ธุรกิจมือถือ" หวั่นการเมืองกดยอดขายลดฮวบ
- กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่น ประเมินตลาดน้ำมันปี 57 คาดการณ์ราคาอยู่ที่ 90-112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ชี้อาจเกิดความผันผวนต่อเนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ระบุหลายประเทศทั่วโลกเริ่มหันไปใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น
- มวลชนจำนวนมากเข้าร่วมเคลื่อนขบวนกับเวทีสามเสนก่อน "สุเทพ" ยกระดับยึดราชดำเนิน ตั้วเวทีใหม่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย "ถาวร" ประกาศพร้อมให้จับติดคุก ไม่สนเป็นพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคง "สีลม" เป่านกหวีดดังกึกก้อง นัดชุมนุมอีก 6 พ.ย. เวที "อุรุพงษ์-สามเสน" ผนึกเคลื่อนไหว
*หุ้นเด่นวันนี้
- TRUE (เมย์แบงก์กิมเอ็ง) แนะ"ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 10.10 บาท เชื่อว่าหากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จะส่งผลให้ราคาหุ้นดีดตัวได้เร็วกว่าตลาด และเป็นจังหวะในเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น และคาดว่าหากกลต.อนุมัติ Filing ในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ในเดือน พ.ย. จะเป็น Catalyst ที่รออยู่ เนื่องจากจะส่งผลให้บริษัทสามารถขายหน่วยลงทุนได้ทันในปีนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับบริษัท เนื่องจากจะได้รับเงินสดสูงถึง 4.4 — 5.2 หมื่นล้านบาท (ภายใต้สมมิติฐานขนาดกองทุนที่ 6 — 7 หมื่นล้านบาท และ TRUE ถือหุ้นใน IFF ที่ 25.5%)
- LH (เคเคเทรด) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q56 เติบโต 11% YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่ายังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 2Q56 ที่ 36% โดย LH มีงานในมือ 1.5 หมื่นล้านบาท รอบันทึกรายได้ช่วง 1 — 3 ปี ข้างหน้า คาดว่าใน 4Q56 LH ยังมีผลประกอบการดีจากแผนการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมีเนียมที่ต่อเนื่องจาก 3Q56 และรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการ 2 คือ The Key อุดมสุข และ North 1 - เชียงใหม่ มูลค่าราว 1 พันล้านบาท สำหรับแผนการจัดตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท อาจเลื่อนไปดำเนินการไปปี 2557 ซึ่งเรายังไม่รวมกำไรจากการขายโครงการดังกล่าวในประมาณการ