"จรัมพร" มองช่วงนี้เป็นจังหวะเก็บหุ้นลงทุน หลัง P/E ต่ำจากการเมืองกระทบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 5, 2013 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากบรรยากาศในช่วงนี้ประเมินว่าจะเป็นจังหวะที่ดีอีกครั้งหนึ่งที่เป็นโอกาสของการลงทุน โดย P/E อยู่ที่ 14.5 เท่า โดยแนะว่าการตัดสินใจการลงทุนควรมี 2 ปัจจัย คือ 1.ต้องหาความรู้เพื่อมาเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตนเองสนใจ 2.หาจังหวะในการเข้ามาลงทุน โดยในวันที่ 21-24 พ.ย.56 ที่จะมีงาน SET in the city หากเป็นจุดที่หุ้นปรับตัวลงและมี P/E ต่ำ นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนในระยะยาวได้
"ประเทศไทยมีการเผชิญวิกฤตมาแล้วทั้งสิ้น 9 วิกฤต บจ.ไทยทั้งหมดมีความสามารถทำกำไรและจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง มองว่าจังหวะในการลงทุนในขณะนี้น่าจะเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนได้"นายจรัมพร กล่าว

ทั้งนี้จากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้มองว่ามีผลกระทบต่อการลงทุนในระดับหนึ่ง โดยนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของการเผชิญหน้าที่อาจจะมีขึ้น แต่ยังเห็นได้ว่าวันนี้หุ้นยังมีการรีบาวน์ขึ้นได้ ซึ่งระดับของความกังวลและความไม่มั่นใจในวันนี้ก็ยังไม่สูงไปกว่าเหตุการณ์ต่างๆของต่างประเทศ ได้แก่ เรื่องมาตรการ QE

นอกจากนี้จากการแถลงของสภาหอการค้าไทยและองค์กรต่างๆเห็นได้ว่า หากเหตุการณ์มีความยืดเยื้อต่อเนื่องอาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดและเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศจำนวนมาก โดยมีความหวังว่าอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นสงบลงโดยเร็ว ซึ่งในนามของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ที่อยู่ในเครือข่ายภาคี ก็ได้มีการแสดงจุดยืนไปแล้วว่าไม่เห็นด้วยและขอคัดค้านการคอร์รัปชั่น

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มองว่าการลงทุนในช่วงนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของความวุ่นวาย หากมีการควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่ดีเชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดทุนก็จะมีไม่มาก แต่หากสถานการณ์บานปลายออกไปหรือเกิดความวุ่นวายขึ้น หรือทำให้ความเชื่อมั่นในกฎหมายของประเทศมีปัญหา มองว่าจะมีผลกระทบตามมาค่อนข้างมากในทางลบ โดยอยากให้ทุกฝ่ายหันมาปรองดองกันซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดทุนไทย

"หากเกิด พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคอร์รัปชั่น ทางสภาธุริกจตลาดทุนก็ได้มีการแถลงออกไปแล้วว่า เราก็ไม่ได้เห็นด้วย ซึ่งยังเป็นจุดยืนของเรา หากมีการไต่สวนกันก็ควรจะเข้าสู่ระบบศาลยุติธรรมให้เป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนมองว่าหากนิรโทษกรรมทั้งหมดเรื่องคอร์รัปชั่นก็อาจจะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติลดลงได้ และตามมาด้วยความเสียหายต่อประเทศชาติแน่นอน"นายไพบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้สัญญาณของเงินทุนไหลออกของต่างชาติ มองว่ามีการไหลออกของเงินทุนไปตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค.56 จากเรื่องของการชะลอมาตรการ QE โดยช่วงนี้จึงไม่ค่อยเห็นการไหลออกของเงินทุนมากนัก อย่างไรก็ตามในช่วงนี้กลับมองว่าจะเห็นถึงเม็ดเงินไหลกลับ แต่เกิดการชะลอขึ้นจากเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจในวงกว้างมากกว่า จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศลดลง รวมถึงการท่องเที่ยวที่เป็นจุดสำคัญหากนักลงทุนเข้ามาในประเทศน้อยลงก็จะส่งผลกระทบ ที่อาจจะทำให้นักวิเคราะห์อาจจะมีการปรับประมาณการลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ