โดยยอดร้บรู้รายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท มาจากรายได้จากการขายบ้านและคอนโดมิเนียม 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 2 พันล้านบาทมาจากการขายที่ดินเปล่า และขายสินทรัพย์กองทุน
ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อน จากรายการพิเศษจากรายได้การขายที่ดินเปล่า 2 พันล้านบาท และขายโครงการยูนิลอฟท์ ศาลายาเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ จำนวนกว่า 500 ล้านบาท
ขณะที่ ยอดขายปีนี้ได้ปรับลดเหลือ 1.3 หมื่นล้านบาทจากเดิมตั้งไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาทซึ่งได้ปรับไปตั้งแต่กลางปี 56 จากกำลังซื้ออ่อนแอลง โดยเฉพาะบ้านราคา 1-3 ล้านบาทกำลังซื้อลดลงจากนโยบายรถคันแรก และหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น
ในช่วง 10 เดือนมียอดขายแล้ว 9.5 พันล้านบาท มาจากบ้านเดี่ยวสัดส่วน 50% และ คอนโดมิเนียม 50% และที่เหลือ 2 เดือนคาดว่าจะมียอดขาย 3.5 พันล้านบาท จากการจัดงานใหญ่ "Perfect Condo Showcase" ช่วงวันที่ 4-10 พ.ย.นี้ ที่คาดว่าจะมียอดขายจากงานดังกล่าวประมาณ 1 พันล้านบาท และในเดือน ธ.ค.จะจัดโปรโมชั่นอีกครั้งในงานบ้านและคอนโด ออฟ เดอะเยียร์ ที่คาดได้ 1 พันล้านบาท รวมกับยอดขายก่อนหน้าที่จะเปิดงาน 1.5 พันล้านบาท ที่เพิ่งเปิดขายในช่วงต้นไตรมาส 4/56 รวม 4 โครงการ
ทั้งนี้ ในงาน "Perfect Condo Showcase" ได้นำบ้านและคอนโดมิเนียม 10 โครงการมูลค่ารวม 2.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการใหม่ 4 แห่ง มูลค่ารวม 8,700 ล้านบาท และอีก 1.2 หมื่นล้านบาทเป็นโครงการปัจจุบัน ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้ บริษัทกังวลการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่เข้มงวดขึ้นจากการที่ปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ โดยปีนี้ ลูกค้าของบริษัทไม่ผ่านการอนุมัติให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนไม่ผ่าน 7-8%
"ปี 57 ปัญหาหลักคือเรื่องสินเชื่อ เพราะสินค้าที่เหลือขายส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวที่ต้องอาศัยสินเชื่อ ส่วนเรื่องหนี้สินในครัวเรือนน่าจะเบางบางลง และปัญหารถคันแรกก็หมดลง"นายวงศกรณ์ กล่าว
รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ PF กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทได้ปรับราคาบ้านไปแล้ว 5-10% และคาดว่าในปี 57 ก็จะปรับขึ้นอีก 5-10% ตามราคาวัสดุก่อสร้าง
ขณะเดียวกันบริษัทเลื่อนเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 2-3 โครงการในปี 56 ไปต้นปี 57 เนื่องจากไม่พร้อมในเรื่องที่ดิน อย่างไรก็ดี ในปี 57 บริษัทไม่มีแผนขายที่ดินเปล่าอีกแล้ว เพราะบริษัทจะเก็บไว้พัฒนาเอง
ส่วนปัจจัยการเมือง นายวงศกรณ์ มองว่า จะทำให้การตัดสินใจซื้อบ้านชะลอตัวไปบ้าง จากเดิมที่บริษัทจะเตรียมออกโปรโมชั่นกลางพ.ย. แต่คงต้องมีการปรับโมรโมชั่นใหม่ โดยการลดการโฆษณาลงเพื่อให้สอดคล้องกับยอดขาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาการเมืองจะไม่รุนแรง แต่คงจะยืดเยื้อ