สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB21DA และ LB236A (รุ่นอายุ 3.6 ปี, 8.1 ปี และ 9.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,824 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) มูลค่า 493.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL14DA) มูลค่า 173.1 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI14OA) มูลค่า 105.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 771.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 22,888 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,382 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,501 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.52% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.52% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 5 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-4 bps. โดยนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว โดยเฉพาะตราสารรุ่นอายุ 10 ปี Yield ปรับลดลง 4 bps. นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาประเด็นการเมืองภายในประเทศ