แต่การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ยังไม่จบ และส่อแววยืดเยื้อ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจะชุมนุมจนกว่าจะมีการถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภา เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ต่างชาติก็ยังขายสุทธิ หลังจากเห็นปัจจัยการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น และต่างชาติได้มีการเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมนุม จึงกังวลกับธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริโภค
ให้แนวรับไว้ที่ 1,395 - 1,405 จุด แนวต้านที่ 1,420 - 1,430 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(5 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,618.22 จุด ลดลง 20.90 จุด (-0.13%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,762.97 จุด ลดลง 4.96 จุด (-4.96%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,939.86 จุด เพิ่มขึ้น 3.27 จุด(+0.08%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 70.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 7.85 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,275.07 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.39 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.81 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.59 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(5 พ.ย.)ที่ 1,415.44 จุด เพิ่มขึ้น 27.04 จุด(+1.95%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,055.29 ล้านบาท เมื่อ 5 พ.ย.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(5 พ.ย.)ที่ 93.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.25 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(5 พ.ย.)ที่ 3.95 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.27/28 หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี
- "ปรีดิยาธร" วอนวุฒิสภาคว่ำพรบนิรโทษกรรม ตีคืนส่งกลับให้สภาผู้แทนฯแก้ไขให้ตรงกับความต้องการประชาชน ด้านส.อ.ท.นักถกคณะกรรมการนัดพิเศษกำหนดจุดยืน "กอบศักดิ์" ประเมินการเมืองยืดเยื้อฉุดจีดีพี ปี 57 วูบ 1-1.5% เหลือเพียงขยายตัว 3.5-4% ททท.เผยสถานทูต 4 ประเทศ ฝรั่งเศส สวีเดน สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น เตือนนักท่องเที่ยวเลี่ยงเส้นทางพื้นที่ชุมนุม ชี้สถานการณ์ยืดเยื้อกระทบท่องเที่ยวไตรมาส 1 ปีหน้า "บีเอ็นพีพาริบาส์" ชี้การเมืองไทยวุ่นวายก่อความเสี่ยงมากกว่าช่วงวิกฤตการเมืองปี 2553 กระทบจีดีพีปีนี้ลดลง 0.2% จากคาดการณ์ทั้งปีโต 3%
- จับตาประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนวันที่ 9-12 พ.ย. เดินหน้าปฏิรูปครั้งใหญ่ ด้าน'หลี่ เค่อเฉียง'ย้ำรักษาการเติบโตเศรษฐกิจที่ระดับ 7.2% ขณะส.อ.ท.แนะจับตาผลกระทบเศรษฐกิจไทยและโลกในปีหน้า
- สมาคม บล.ห่วงการเมืองกระทบกำไรบจ.โตต่ำเป้า กดจีดีพีฟื้นตัวช้า คาดปีหน้าโตไม่ถึง 5% ด้านสมาคมนักวิเคราะห์เตรียมปรับลดเป้าดัชนี ปีนี้อีกรอบ คาดการเมืองกระทบดัชนีรุนแรงสุดไม่เกิน 10%
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ย.นี้ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แก้ไขอัตราโครงสร้างภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาฉบับใหม่ ให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในปีภาษี 2556 ส่วนข้อเสนอให้เพิ่มวงเงินรายจ่ายเพื่อหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมไม่เกิน 60,000 บาท/ปี เป็น 120,000 บาท/ปีนั้น ยังไม่ได้เสนอให้ครม.พิจารณา เพราะต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อน
- "ทนง" อดีตขุนคลังรัฐบาล "ทักษิณ"แนะ"ปู"หาทางถอยร่างพ.ร.บ.นิรโทษฯหวั่นเกิดความขัดแย้ง"หม่อมอุ๋ย"วอนรัฐบาลฟังเสียงคัดค้านของประชาชนผวาสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจ "ส.อ.ท." นัดประชุม8 พ.ย. หารือจุดยืนพ.ร.บ.นิรโทษฯ นายแบงก์ชี้พิษการเมืองฉุดเศรษฐกิจไทยโตเพียง 3.5-4% ด้านหุ้นปิดพุ่ง 27.04 จุด ซื้อขาย 3.4 หมื่นล้าน หลังความขัดแย้งทางการเมืองมีแววผ่อน
- นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จะมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีไทยในปีนี้ลงอีกราว 0.2% หรือลดลงจากระดับ 3.7% มาอยู่ที่ 3.5% ถือเป็นการปรับลดเป็นครั้งที่ 4 ในรอบปี จากตัวเลขส่งออกที่ลดลง และปัญหาการชุมนุมทางการเมืองเพื่อคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะกระทบต่อภาคท่องเที่ยวและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงปลายปี
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 5 พ.ย. มีมติเห็นชอบความตกลงด้านการค้าบริการและด้านการลงทุน ระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสาธารณรัฐอินเดีย (อาเซียน-อินเดีย) โดยให้นำร่างความตกลงดังกล่าวเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 แห่งรัฐธรรมนูญ ปี 2550
- GLOBAL (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 24 บาท ประเมินผลการดำเนินงานใน 3Q56 บริษัทจะมีกำไรสุทธิราว 254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% QoQ และ 63% YoY แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาจะกระทบกับยอดขายในเดือน ก.ย.2556 ของบริษัทจำนวน 4 สาขา แต่ส่วนใหญ่เป็นสาขาที่ยังมีสัดส่วนรายได้ไม่มาก ขณะที่การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด จะเป็นปัจจัยบวกใน 4Q56 ซึ่งคาดจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนลูกค้ากระจายตัวทั้งลูกค้าที่อยู่อาศัย และผู้รับเหมารายย่อย-ขนาดใหญ่
- BCP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 40 บาท คาดกำไรสุทธิใน 3Q56 จะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มพลังงานที่เราศึกษาอยู่ที่ราว 1.14 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 181% YoY จากกำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, Stock Gain และรายได้จากโครงการ Solar Farm หลังหน่วยผลิตที่ 2 เดินเครื่องเต็มไตรมาส ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน ใน 4Q56 จะยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มค่าการกลั่นที่จะปรับเพิ่มจากความต้องการใช้น้ำมันทำความร้อนที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ขณะที่ BCP มีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มน้ำมันทำความร้อนเฉลี่ย 55-60%
- BTS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 12.30 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้น และเป็น Sentiment เชิงบวก ได้แก่ คาดว่าจะถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand ซึ่งจะประกาศในช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 พ.ย. และ BTS-W3 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลท.ช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. จึงอาจเห็นแรงเก็งกำไรต่อหุ้น BTS ด้วยเช่นกัน ด้านปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาวของบริษัท
- TASCO (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 90 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q56 ที่ 250-300 ล้านบาท เติบโตทั้ง yoy และ qoq จาก 185 ล้านบาท ใน 2Q56 และ 94 ล้านบาท ใน 3Q55 และคาดว่าผลประกอบการ 4Q56 จะเติบโตต่อเนื่อง qoq จากการซ่อมแซมถนนในประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย ช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันมองบวกต่องบฯปี 2557 ที่คาดจะเติบโตตามงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐฯ โดยมีงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทสูงถึง 89,381 ล้านบาท หรือ +3% yoy ส่วนราคาหุ้นมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก
- CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 48 บาท คาดกำไรปกติ 3Q13 +3% Q-Q, +87% Y-Y เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มฯที่กำไรดีขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y ธุรกิจโรงแรมของ CENTEL ยังคงโดดเด่นชดเชยธุรกิจอาหารที่ชะลอได้ ส่วนสถานการณ์การเมืองปัจจุบันยังไม่กระทบมากนักแต่ต้องจับตา แต่ก็เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว เราจึงยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2013 โต 34% ปี 2014 คาดโต 21%
- THANI (ฟินันเซีย ไซรัส)กำไรดีเกินคาด +7% Q-Q, +38% Y-Y แนวโน้มกำไรทั้ง 4Q13 และปี 2014 ยังแข็งแกร่งต่อจากความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจเช่าซื้อรถเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะรถบรรทุก โดยคาดกำไรปีนี้โต 68% ปีหน้าโต 21% และได้ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 9.15 บาท นอกจากจะมี upside จากราคาหุ้นปัจจุบันอย่างมากแล้ว ยังคาดว่าจะจ่ายปันผลสูง 4% โดยมีโอกาสที่จะจ่ายเป็นหุ้นอีกครั้งเพื่อบริหารโครงสร้างเงินทุน