BBL เปิดสาขาเมดานแห่งที่ 3 ในอินโดฯ ตั้งเป้าสิ้นปีปล่อยสินเชื่อรวมพันล้านดอลล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 6, 2013 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจของธนาคารในประเทศอินโดนีเซียว่า ขณะนี้ธนาคารได้รับการอนุมัติจากธนาคารกลางประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียให้ดำเนินธุรกิจสถาบันการเงิน ในรูปแบบของสาขาเพิ่มเป็นแห่งที่ 3 ที่เมดาน จากเดิมมีสาขาในอินโดนีเซียที่เมืองจาการ์ต้าที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 11 และสาขาสุราบายาที่ดำเนินการเมื่อปี 55 ที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มลูกค้าของธนาคารจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ ประชากรในพื้นที่ คนไทยที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในเมดาน และนักธุรกิจต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นต้น

สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลให้ธนาคารเลือกขยายสาขาที่อินโดนีเซียเพิ่มเติม คือ ประชากรทั้งประเทศที่มีมากกว่า 240 ล้านคน เศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากรายได้ประชากรต่อหัวมากกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ประกอบกับกานขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายหลังการเปิดสาขาที่ 3 แล้วจะส่งผลให้สินเชื่อภายในสิ้นปีนี้เติบโต 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

"เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของอินโดนีเซีย สะท้อนจากความต้องการสินเชื่อมี่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีแรกๆ และเติบโตมาอยู่ที่ 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ที่ 900 ล้านดอลลารสหรัฐ และคาดว่าสิ้นปีจะได้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างแน่นอน โดยกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ใช้บริการของธนาคารคิดเป็นสัดส่วน 15-16% ของสินเชื่อรวม และลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคาร คือ กลุ่มยานยนต์ ปิโตรเคมี การส่งออก ภาคการเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ยาง เป็นต้น รวมถึงกลุ่มพลังงานด้วย"

นายชลิต เตชัสอนันต์ ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ ประจำอินโดนีเซีย กล่าวว่า ล่าสุดธนาคารได้เปิดสาขาเมดาน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาโดยธนาคารมีแผนขยายธุรกิจสถาบันการเงินให้ครอบคลุมอินโดนีเซียมากขึ้นต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับความต้องการสินเชื่อของลูกค้า โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ประชาชนท้องถิ่น นักลงทุนต่างชาติรวมถึงนักลงทุนไทย

ส่วนการแข่งขันภาคธุรกิจสถาบันการเงินในอินโดนีเซีย ยอมรับว่า มีความรุนแรง เนื่องจากปัจจุบันมีสถาบันการเงินท้องถิ่น (โลเคิลแบงก์) มากถึง 120-125 ราย ขณะที่สาขาต่างประเทศมีทั้งสิ้น 11 ราย และสาขาที่เข้ามาจดทะเบียนเป็นบริษัท จำกัด รวมทั้งสิ้น 17 สาขา ส่งผลให้การแข่งขันต่างๆ ค่อนข้างรุนแรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ