(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นหลังการเมืองผ่อนคลาย หันโฟกัสผลประกอบการต่อไป

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 7, 2013 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อยู่ หลังสถานการณ์ทางการเมืองผ่อนคลายลงไปมาก ซึ่งหุ้นก็น่าจะกลับมาสู่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดเอง และคงจะมีการมองไปที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(Earning)ต่อไป
"ถ้าตลาดฯปรับตัวขึ้น ประเด็นการเมืองก็ดูจะด้อยไป แต่ถ้าตลาดฯเป็นลักษณะของการขึ้น ๆ ลง ๆ ก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ชัดเจน แต่ถ้าตลาดวันนี้ปิดในแดบวกได้ก็จะมีทิศทางที่ดีในช่วงต่อไป"นายเจริญ กล่าว

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มากนัก โดยมองว่าคงจะเป็นตามการประกาศ Earning ของแต่ละตลาดฯ

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,425 จุด ส่วนแนวต้าน 1,448 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,746.88 จุด เพิ่มขึ้น 128.66 จุด (+0.82%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,770.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด (+0.43%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,931.95 จุด ลดลง 7.92 จุด(-0.20%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 13.21 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.03 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 13.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(6 พ.ย.)ที่ 1,415.44 จุด เพิ่มขึ้น 27.04 จุด(+1.95%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,939.95 ล้านบาท เมื่อ 6 พ.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(6 พ.ย.)ที่ 94.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ฯ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(6 พ.ย.)ที่ 3.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.25/27 ติดตามการเมืองไทย-ตัวเลขเศรษฐกิจตปท.
  • มติวิปรัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม-พ.ร.บ.ปรองดอง 6 ฉบับพ้นสภา, นายกรัฐมนตรีแถลงยืนยันไม่นำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาพิจารณาอีก"ภูมิธรรม"ย้ำ"เพื่อไทย"จะปล่อยร่าง"นิรโทษสุดซอย"ตกไป หากวุฒิสภาคว่ำร่างกฎหมาย และไม่เสนอกฎหมายที่สร้างความขัดแย้งในสังคมอีก ขณะที่วิปรัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองนิรโทษกรรม ที่คาสภา 6 ฉบับ ป้องกันปชป.ตีกินทางการเมือง เตรียมเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติวันพุธหน้า ขณะที่วิปวุฒิสภาเคาะถกร่างนิรโทษ 11 พ.ย.
  • นักธุรกิจ เผยชุมนุมต้านพ.ร.บ.นิรโทษ ฉุดอารมณ์จับจ่ายชะลอตัว หวั่นกระทบธุรกิจยาว เร่งปรับกลยุทธ์-งัดแผนสำรอง ปั๊มยอดขาย ไฮซีซัน ธุรกิจโรงแรมหันรุกหนักอาหารและจัดเลี้ยง อสังหาฯ รับลดงบโฆษณา เล็งเลื่อนเปิดโครงการ ด้านฮอนด้าระบุไม่ปรับแผน โหมกิจกรรมกระตุ้นตลาดรถปลายปี
  • น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า กสท.มีความกังวลและให้ความสำคัญในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าประมูลทีวีดิจิตอลทั้ง 29 บริษัท โดยเฉพาะในประเด็นผู้เข้าประมูลเป็นนอมินีหรือสายสัมพันธ์กับฝ่ายการเมือง ซึ่งจะทำให้การนำเสนอเนื้อหาค่อนข้างเอนเอียง
  • นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ประธานคณะทำงานด้านพลังงาน ภายใต้คณะกรรมการประสานงานคณะกรรมการประสานงานร่วมไทย-เมียนมาร์เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (เจซีซี) จะนำคณะทำงานเยือนกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ เพื่อเจรจากับคณะทำงานฝ่ายพม่าเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย หลังพบว่าโครงการนี้มีอุปสรรคทางการเงินจนอาจทำให้ล่าช้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด
  • "สุรพล โอภาสเสถียร" ผู้จัดการใหญ่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ(เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ เพราะสถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้นบัญชีสินเชื่อบ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิตมีการค้างชำระเกิน 3 เดือนขึ้นไปที่เป็นหนี้สงสัยจะสูญอยู่ที่ประมาณ 3% ของสินเชื่อทั้งระบบจึงยังไม่น่าเป็นห่วง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • RS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 12.50 บาท ประเมิน RS จะประกาศผลการดำเนินงานใน 3Q56 ออกมาโดดเด่นที่สุดในกลุ่มบันเทิง โดยจะมีกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% YoY และ 12% QoQ ซึ่งเป็นผลจากปรับขึ้นค่าโฆษณาสื่อทีวีดาวเทียมกว่า 1 เท่าตัวจากปีก่อนหน้า และปรับขึ้นค่าโฆษณาสื่อวิทยุราว 30% ทั้งนี้เรายังเชื่อว่าบริษัทจะยังคงมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น แม้ว่าการเกิดทีวีดิจิทัลจะทำให้จำนวนผู้เล่นในธุรกิจสื่อโทรทัศน์เพิ่มขึ้นก็ตาม โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ที่ 503 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.6% YoY ต่อเนื่องจากในปี 2556 ที่เพิ่มขึ้น 29.0% YoY
  • PTTEP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 194 บาท จะเป็นบริษัทในกลุ่มพลังงานที่มีการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2557 โดดเด่นที่สุด ขณะที่เรายังคงติดตามผลการซื้อแหล่งปิโตรเลียมของ Hess ที่คาดว่าจะข้อสรุปภายในปี 2556 ความพร้อมทางด้านการเงิน รวมทั้งความได้เปรียบจากการเป็นผู้ร่วมทุนในแหล่งปิโตรเลียมในประเทศ ทำให้ PTTEP มีโอกาสสูงที่จะชนะในครั้งนี้ ถือเป็น Upside ของหุ้นในอนาคตซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ
  • DELTA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 58 บาท กำไรดีตามคาด โดยกำไรปกติ +39% Q-Q, -9% Y-Y เป็น 1,542 ล้านบาท ทำให้กำไรปกติงวด 9M13 +20% Y-Y คิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี โดยยังคงประมาณการกำไรปีนี้ +20% ปีหน้า +11%
  • SYNTEC(ทรีนีตี้)บริษัทเผยว่าการรับรู้รายได้ Backlog ได้กระจุกตัวอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังโดยเริ่มทยอยรับรู้ในไตรมาส 3/56 และจะสูงมากขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี พร้อมย้ำว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น มั่นใจรายได้โตก้าวกระโดดรวมทั้งปีมากกว่า 20% อีกทั้งความคืบหน้าการเข้าประมูลงาน 10 ดีล มูลค่า 3-4 พันลบ. บริษัทเชื่อว่าจะได้รับงานประมาณ 80-90% เพราะงานส่วนใหญ่มาจากฐานลูกค้าหลัก คาดสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมเตรียมประกาศงบไตรมาส 3/56 กลางสัปดาห์หน้า โดยมองแนวรับที่ 1.40 บาทและแนวต้านที่ 1.55 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ