สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB296A และ LB176A (รุ่นอายุ 5.6 ปี, 15.6 ปี และ 3.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,998 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL16OB) มูลค่า 181.3 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL23OB) มูลค่า 160.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF218B) มูลค่า 122.8 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 464.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,645 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 742 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 380 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.52% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ GDP ไตรมาส 3/2556 และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ รวมทั้งผลการประชุม ECB ซึ่งตลาดคาดว่า น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายในพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 380 ล้านบาท