สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดนั้น บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ทุก 6 สัปดาห์ โดยชูจุดขายสินค้าที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เอาใจผู้บริโภคด้วยการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีกเชนสโตร์ เช่น ห้างโรบินสัน ห้างท๊อปส์มาร์เก็ต ร้านทีวี ไดเร็คโชว์เคส และร้านค้าปลีกชั้นนำที่เริ่มเข้าร่วมรายการเป็นบางสาขาเช่นวัตสัน ซูรูฮะ ล็อฟท์ และ ตั้งฮั่วเส็ง ที่ทยอยนำเสนอสินค้าไอเดียแปลกใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ก่อนขยายไปสู่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ต่อไป
“การนำเสนอสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ผ่านจอวีดีโอ ณ ร้านค้าปลีก ของ JML ครั้งนี้ นับว่าเราเป็นผู้ประกอบการรายแรก ที่ประกาศจุดยืนในการทำตลาดแนวนี้อย่างเต็มตัวในประเทศไทยจากประสบการณ์กว่า 30 ปี บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าลูกค้าชาวไทยจะให้การสนับสนุนสินค้าของบริษัทฯ เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับลูกค้าทั่วโลกที่ได้สัมผัสกับเรา ซึ่งในภูมิภาคเอเชียเรามีสาขาในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย โดยเราได้เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา วีดีโอที่นำเสนอภายในร้านค้าปลีก มีความยาวประมาณ 1 นาที สามารถสร้างความต้องการซื้อสินค้า ได้เป็นอย่างดี วีดีโอทำหน้าเปรียบเสมือนพนักงานสาธิตสินค้า ที่สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทุกที่ ทุกเวลาบริษัทฯ หวังแจ้งเกิดสินค้าภายใต้แบรนด์ JML ในตลาดค้าปลีกของไทยภายใต้สโลแกน ‘เจเอ็มแอล ไอเดียที่ใช่ สำหรับคุณ’ ได้ภายในเวลา 2 ปี" นายพีรวัฒน์ กล่าว
นายพีรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะรุกธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ เจเอ็มแอล (JML) ในไทย เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีจุดเด่นในด้านความหลากหลายของสินค้าที่มีมากกว่า 100 รายการ จากสินค้าประเภท Life Style & Living ที่มีด้วยกัน 5 หมวดหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ภายในบ้าน ของใช้ส่วนตัว เครื่องครัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า 72 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาทแรกภายในปี 2557 โชว์จุดเด่นในความหลากหลายของสินค้า มั่นใจการตอบรับผู้บริโภคในไทย โดยวางราคาจำหน่ายแบบผู้ซื้อไม่ต้องลังเลใจ ที่เริ่มตั้งแต่ 299 บาทต่อชิ้นขึ้นไป ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าเป็นราคาที่สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคตามแต่ละทำเลและประเภทของร้านค้าปลีกและน่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายของบริษัทฯ ออกมาในทิศทางที่ดีได้
สำหรับสินค้าล็อตแรก ที่นำเข้ามาทำตลาดมี 2 รายการ ได้แก่ 1.ม่านกันยุง มี 2 สีให้เลือกตามความชอบ ได้แก่สีขาวและสีดำ ซึ่งผู้ใช้สามารถเดินผ่านเข้าออกม่านกันยุงได้ โดยไม่ต้องใช้มือเปิดปิดแต่อย่างใด เพราะมีแม่เหล็กที่ยึดม่านอยู่ตรงกลาง ติดตั้งได้ง่ายด้วยตนเอง เพียงยึดขอบของม่านด้วยแถบตีนตุ๊กแก กับวงกบประตูขนาดมาตราฐาน ก็สามารถใช้งานม่านกันยุงได้ทันที ใช้ง่ายแม้กระทั่งกับเด็ก หรือแม้แต่ สัตว์เลี้ยง เช่นสุนัข และแมวส่วนสินค้าตัวที่
2.คือผ้ารองรีด ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีและยาวนานที่สุดของบริษัทฯ ที่มาพร้อมลวดลาย 6 แบบในรุ่นแรก ให้ลูกค้าไทยได้เลือกตามความชอบ ใช้สวมกับที่รองรีดได้เลย ตัวผ้ารองมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนสูง ทำให้รีดได้เร็ว เพราะไม่ต้องรีดทั้งสองด้าน ผ้ารองมีความหนาเป็นพิเศษ ช่วยให้รีดกระดุมได้ง่ายและยังถอดซักเครื่องได้ตามต้องการ สำหรับสินค้าทั้ง 2 รายการนี้ได้เริ่มวางตลาดไปแล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก่อนที่จะทยอยนำเข้าสินค้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าภายในปีหน้าจะมีสินค้าของ JML เข้ามาทำตลาดในไทยไม่ต่ำกว่า 20 รายการ เพื่อทำให้ชีวิตผู้บริโภคชาวไทยง่ายขึ้น