นายจิตตะกอน สุกสมบูน ผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัท สุกสมบูน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนเม็ด และปูนซีเมนต์คุณภาพสูง เปิดเผยว่า บริษัทได้แต่งตั้ง APMLAO เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและจัดโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัท เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว โดยเล็งเห็นว่าธุรกิจแรกในกลุ่มที่มีศักยภาพสูงที่สุด คือ ธุรกิจปูนซีเมนต์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 4 บริษัท แบ่งออกเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในประเทศไทย 2 บริษัท คือ บริษัท อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ บี เอ็ม ซี จำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอ็ม ซี คอนกรีต และจดทะเบียนอยู่ในสปป. ลาว 2 บริษัท คือ บริษัท อุตสาหกรรมซีเมนต์ ลาว จำกัด และ โรงงานผลิตซีเมนต์ บีเอ็มซี
“ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มสุกสมบูน มีทั้งปูนซีเมนต์ ขนส่งและโลจิกติกส์ สถานีบริการน้ำมัน ไม้แปรรูป ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ แต่ว่าธุรกิจที่คาดว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ลาวได้เร็วที่สุด คือ ธุรกิจปูนซีเมนต์ ซึ่งมีการผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายใต้ตราสินค้า “ช้างคำ" ของตัวเอง มีผลิตภัณฑ์ 3 อย่างคือ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท PC 52.5 ใช้ก่อสร้างงานโครงสร้างอาคาร งานคอนกรีตที่ต้องการกำลังอัดสูง ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท PC 42.5 ใช้สำหรับงานก่อสร้างทั่วไป และปูนซีเมนต์ผสม ประเภท PC 32.5 ใช้สำหรับงานฉาบ งานก่อ งานติดกระเบื้อง" นายจิตตะกอน กล่าว
ในปี 56 โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ที่เวียงจันทน์ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 450,000 ตันต่อปี ขณะที่กำลังการผลิตทั้งหมดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวหรือ(สปป.ลาว) อยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านตันต่อปี แต่ปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์นั้นมีมากถึง 3,500,000 ตันต่อปี เนื่องจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันสปป.ลาว อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างขนาดพื้นฐานของประเทศ โดยขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติโครงการขนาดใหญ่ อาทิ โครงการรถไฟรางคู่ โครงการก่อสร้างและปรับปรุงเขื่อนกว่า 60 แห่ง การขยายถนนหมายเลข 13 เป็น 6 ช่องจราจรระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อรองรับการเปิด AEC ในปลายปี 2558
และล่าสุดบริษัทได้รับใบประกาศประกาศนียบัตรของโรงงานผลิตซีเมนต์ BMC Cement Factory ทางด้านระบบการบริหารจัดการ ISO 9001 : 2008 และใบประกาศนียบัตรมาตรฐานอุตสาหกรรมลาว Certificate of Portland Cement มล. 04-2010 และCertificate of Mixed Cement มล. 05-2001 ยิ่งเป็นเรื่องตอกย้ำว่าบริษัทใส่ใจในทุกรายละเอียดทั้งทางด้านการผลิตและระบบบริหารจัดการ
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ผู้อำนวยการใหญ่ บล.เอพีเอ็มลาว เปิดเผยว่า ธุรกิจของกลุ่มสุกสมบูนมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีศักยภาพและโอกาสทื่จะเติบโตอย่างมากในโดยเฉพาะธุรกิจปูนซีเมนต์ โดยที่บริษัทมีแหล่งวัตถุดิบ ที่สามารถผลิตปูนเม็ดกำลังการผลิต 1,600,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ที่แขวงคำม่วน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตปูนเม็ด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 58
ทั้งนี้ เมื่อโรงงานแล้วเสร็จกลุ่มบริษัท สุกสมบูน จำกัด จะใช้โรงงานดังกล่าวเป็นจุดศูนย์กลางในการขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศลาว ประเทศไทย ตลอดจนภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งคือ กลุ่มบริษัท สุกสมบูน จำกัด ยังมีธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ที่มีรถบรรทุกพร้อมให้บริการมากกว่า 200 คัน ซึ่งเพียงพอต่อการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าของบริษัท
“บริษัทมีโรงงานปูนซีเมนต์ทั้งไทยและลาว มีบริษัทขนส่งของตัวเอง มีแหล่งวัตถุดิบ ยิ่งทำให้ได้เปรียบเรื่องต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง รวมถึงชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ ก็ได้รับการยอมรับอย่างสูง มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจปูนซีเมนต์ในสปป.ลาว นั้น ยังคงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องมีมูลค่าการลงทุนสูง ขณะเดียวกันแหล่งสัมปทานเหมืองแร่หินปูนซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปูนซีเมนต์มีอยู่ในจำนวนจำกัด ปัจจุบัน รายได้ในส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์อยู่ที่ประมาณ 700-800 ล้านบาท ทั้งนี้จากศักยภาพของธุรกิจปูนซีเมนต์ทำให้บริษัทมีแผนจะนำธุรกิจดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า" นายสมภพ กล่าว