“เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2556 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศอนุญาตให้บริษัทฯ พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนโดยปลดเครื่องหมาย "SP" (Suspension) และ "NC" (Non-Compliance) รวมทั้งย้ายหลักทรัพย์ SMPC ออกจากกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non- Performing Group: NPG) และอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ SMPC ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรมหมวดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 โดยไม่มีการกำหนดกรอบราคาสูงสุดและต่ำสุด (ceiling & floor)"ก่อนหน้านี้ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ทีมผู้บริหารมุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้บริษัทฯ เพื่อผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่ผู้ถือหุ้นที่ให้การไว้วางใจ SMPC ตลอดมา โดยในปี 2557 บริษัทฯ วางเป้ารายได้เติบโต 15% และยังคงรักษาอัตราการเติบโตไว้ในระดับนี้ในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า หลังลงทุนเพิ่มกำลังผลิตโรงงานแห่งใหม่เพื่อรองรับออเดอร์จากลูกค้า
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ของปี 2556 บริษัทฯ มียอดขาย 1,498.67 ล้านบาท กำไรสุทธิ 100.85 ล้านบาท โดยลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,742.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 145.96 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ประกอบกับมีการเลื่อนคำสั่งซื้อจากลูกค้าบางราย ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ลดลง อย่างไรก็ตามผลประกอบการในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 2/2556 เป็นต้นมา กลับสู่ภาวะปกติทั้งในแง่รายได้และกำไร คาดว่าทั้งปีนี้ รายได้จะใกล้เคียงกับปีก่อน
นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นเพื่อล้างขาดทุนสะสม ณ สิ้นไตรมาส 3/2556 จำนวน 44.88 ล้านบาท โดยจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในเรื่องดังกล่าว วันที่ 13 ธ.ค. 2556 นี้