ปัจจุบัน ริชี่เพลซ 2002 มีทุนจดทะเบียนจำนวน 714 ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วมีจำนวน 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 500 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยบริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์และทาวน์โฮม ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ภายใต้แบรนด์ ‘เลอริช’ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมความสูงไม่เกิน 8 ชั้น และแบรนด์‘ริชพาร์ค’เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีความสูงเกิน 8 ชั้น ที่เน้นพัฒนาโครงการรอบบริเวณสถานีขนส่งมวลชนระบบรางขณะที่โครงการทาวน์เฮ้าส์และทาวน์โฮมจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ ‘เดอะริช’ และบ้านเดี่ยวจัดสรรภายใต้แบรนด์ ‘ริชชี่ วิลล์’ จะพัฒนาโครงการในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร ริชี่เพลซ 2002 เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอสังหานิมทรัพย์ในประเทศไทย ที่ยังมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า ที่เป็นนโยบายของบริษัทฯที่จะมีการขยายโครงการตามแนวรถไฟฟ้าต่างๆ
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีนโยบายปันผล 40% ของกำไรสุทธิ โดยตลอดการดำเนินธุรกิจได้มีการจ่ายปันผลตลอดมา ปีละ 1 ครั้ง แต่ในปี 55-56 บริษัทฯได้มีการจ่ายปันผลถึง 2 ครั้ง
สำหรับรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.2 พันล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตกว่า 200-300% จากครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิแล้ว 137 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนทั้งปีที่มีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายรอโอน(Backlog)ปัจจุบันที่มีอยู่ 2 พันล้านบาท มีกำหนดรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 15-20% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ฯในปี 57-58 ขณะที่มีโครงการที่เตรียมเปิดตัวในเดือน ม.ค.57 อีก 1 โครงการ เป็นโครงการแนวราบ 140 ยูนิต ตั้งอยู่บนทำเลถนนราชพฤกษ์ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท
ด้านนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยว่า แนวโน้มของ หุ้น IPO จะดีขึ้นในปี 57 หลังจากสถานการการเมืองที่เริ่มครี่คลายลง ประกอบกับสถานการทางเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่งต่อเนื่อง ทั้งนี้ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.จีแคปปิตอล ได้รับการนับ 1 ไฟลิ่งไปแล้ว คาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)ได้ในเดือน ธ.ค.56 แน่นอน คาดว่าจะมีการระดมทุนราว 100 ล้านบาท
ส่วนปี 57 บริษัทจะยื่นไฟลิ่งให้กับอีก 2 บริษัทในช่วงต้นปี คือ บมจ.ซีซีเอ็น-เทค ที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai คาดว่าจะมีมูลค่าการระดมทุนราว 100 ล้านบาท และ บมจ.จีเอสพี พร้อพเพอร์ตี้ ที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) มูลค่าระดมทุนราว 2 พันล้านบาท