ส่วนโครงการที่ร่วมทุนกับนักลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบริษัท ยูเอซีทีพีที จำกัด น่าจะเริ่มงานก่อสร้างโรงงานแรกได้ภายในเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน
นายชัชพล คาดว่า โรงงาน 3 โรงแรกจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 3/2557 และ บริษัทฯ จะเร่งโครงการทั้งหมด 20 โครงการ ให้ทยอยแล้วเสร็จครบทั้งหมดภายในปี 58 โดยกำลังการผลิต CBG อยู่ที่ 6 ตันต่อวัน หรือเทียบเท่ากำลังผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกะวัตต์ต่อโรง
"ปี 58 โครงสร้างธุรกิจของ UAC จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น โดยจะเติบโตจากธุรกิจพลังงานทดแทนมากขึ้นซึ่งหลังจากรับรู้รายได้จากการลงทุนต่าง ๆ ในเชิงพาณิชย์แล้ว เมื่อรวมกับรายได้จากธุรกิจในการจำหน่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ก็จะทำให้รายได้ของ UAC มีอัตราการเติบโตที่ดีในระยะยาว และมีรายได้ที่แข็งแกร่ง" นายชัชพล กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ในปี 2556 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากผลงานในไตรมาส 3 ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายต่อเนื่องกว่า 20% สะท้อนความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีที่อยู่ในสภาวะที่ดีต่อเนื่องไปถึงกลางปี 2557 ตามยอด Backlog ที่ได้รับมา
ส่วนผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2556 (ก.ค.-ก.ย.) บริษัทฯ มีรายได้รวม283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 248 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2556 (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทฯ มีรายได้รวม 777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 625 ล้านบาท ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลการดำเนินงานที่เติบโตสะท้อนถึงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัท และการขยายตัวเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้