"เราตั้งใจในการหาเทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาใช้ในศูนย์ อาทิเช่น ศูนย์โรคหัวใจ และหลอดเลือด ศูนย์โรคมะเร็งที่ล่าสุดได้นำเข้าเครื่องรักษาโรคมะเร็งจุฬารัตน์ไฮฟูนิท 9000 เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามโดยเฉพาะมะเร็งตับ และตับอ่อน จึงเชื่อว่าไม่เพียงแต่ผู้ใช้บริการในพื้นที่จ.สมุทรปราการ และจ.ฉะเชิงเทรา และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะสามารถให้บริการรักษาครอบคลุมกับประชาชนทั่วประเทศได้" นายแพทย์กำพล กล่าว
สำหรับผลดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/56 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นคิดเป็น 58% โดยมีกำไรสุทธิ 126.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.84 ล้านบาท ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 23.88% โดยมีรายได้รวมที่ 617.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.04 ล้านบาท ส่วนช่วง 9 เดือนของปี 56 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 64.56% หรือมีกำไรสุทธิ 306.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.42 ล้านบาท
“สาเหตุรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยสำคัญที่ทางบริษัทฯเป็นที่รู้จักมากขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไป และมีภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้นส่งผลทำให้ประชาชนหรือลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีรายได้มาเพิ่มขึ้นจากโครงการสวัสดิการภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการภาครัฐอื่นๆ ซึ่งเติบโตถึง1,500 % เป็นผลจากการเปิดศูนย์โรคหัวใจครบวงจรในช่วงไตรมาส 1 ปี 2556 อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเติบโตของบริษัทฯมีอัตราต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้บริษัท"นายแพทย์กำพล กล่าว
ส่วนทิศทางผลประกอบการในอนาคตน่าจะปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่บริษัทฯตั้งเป้าเติบโตทั้งปีไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯได้เพิ่มผลิตภัณฑ์และเพิ่มศักยภาพในโรงพยาบาลมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง เช่น ศูนย์โรคหัวใจ และหลอดเลือด ศูนย์โรคมะเร็ง ศูนย์ตรวจสุขภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ทางบริษัทฯมีนโยบายการเดินหน้าขยายโรงพยาบาลให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทั้งในส่วนของการขยายจำนวนเตียง และพื้นที่ให้บริการ เช่นในโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และมีการเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ที่จ.ปราจีนบุรี บริเวณพื้นทีถนนสาย 304 ซึ่งเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม เช่น นิคมอุตสาหกรรม304 และโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)เป็นต้น