อย่างไรก็ตาม บริษัทประมาณการรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 1.7-1.9 พันล้านบาท ส่วนกำไรจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 58.62 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรแล้วกว่า 42.37 ล้านบาท มาจากการที่บริษัทมีการประกอบกิจการทั้งหมดถึง 7 ธุรกิจ มีการบริหารจัดการทางด้านต้นทุนได้ดีมากขึ้น มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น และการขยายฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ พร้อมทั้งมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดรับกับการแข่งขันทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/56(ก.ค.-ก.ย.56) บริษัทมีรายได้ 401.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 373.17 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาสนี้ 49.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 44.06 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.78 ล้านบาท ลดลง 5.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.37% เนื่องด้วยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.6) บริษัทมีรายได้ 1,194.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 53.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.78 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.20% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 47.37 ล้านบาท
สาเหตุที่บริษัทมีอัตราผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายพื้นที่ในการจำหน่าย โดยผ่านตัวแทนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทมีอัตราการขยายตัวของผลการดำเนินงานอย่างเด่นชัดในช่วงที่ผ่านมา