น.ส.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ CKP เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้เติบโตเกินเป้าหมายมาที่ 5.7 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 5.4 พันล้านบาท หลังจาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมีรายได้แล้วกว่า 4 พันล้านบาท หลังจากโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่คาด จากช่วงที่ผ่านมาเป็นหน้าน้ำ และมีคำสั่งซื้อไฟเข้ามาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากการขายไอน้ำในโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมบางปะอินโคเจนเนอร์เรชั่น (BIC) ตั้งแต่เดือน ต.ค.56 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในปี 57 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จะมีการเติบโต 20% จากปีนี้ โดยรับรู้รายได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมบางปะอินโคเจนเนอร์เรขั่น (BIC) เข้ามาเต็มปี ประกอบกับจะสามารถเพิ่มปริมาณการขายไอน้ำได้มากขึ้นอีก
ในขณะเดียวกันหลังจากที่โครงการน้ำงึม 2 มีรายได้ดีเกินเป้าหมาย ทางบริษัทฯจึงได้มีการขอรีไฟแนนซ์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้(2556)
ในขณะเดียวกันยังมีโครงการในอนาคตอีก ที่จะสร้างเสร็จอีกคือ BIC เฟส 2 ที่จะสร้างเสร็จในปี 60 ที่มีกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ โครงการน้ำบาก ในปี 61 มีกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ และโครงการ ไซยะบุรี ในปี 62 มีกำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์
น.ส.สุภามาส กล่าวต่อว่า บริษัทฯได้ศึกษาเรื่องการเข้าไปลงทุนในพม่า ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเพียง 2-3 พันเมกะวัตต์ ซึ่งมองเห็นโอกาสการลงทุนค่อนข้างมาก
สำหรับในประเทศลาว ยังมีพื้นที่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก โดยบริษัทฯยังมีการศึกษาเพื่อที่จะขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง จากการที่ทางกลุ่ม ช.การช่าง (CK) ที่มีประสบการณ์ในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านก่อสร้าง การบริหารจัดการน้ำ และบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ทั้งโรงไฟฟ้า เขื่อน ทางบริษัทฯจึงมองแนวโน้มการที่จะขยายในที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง