แม้ว่ารายได้ในปี 56 จะพลาดเป้าหมายจาก 3 หมื่นล้านบาทเป็น 2.3-2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโครงการขยายโครงข่าย 3จี เฟส 2 ของบมจ.ทีโอที ล่าช้า แต่คาดว่าจะได้ความชัดเจนในไตรมาสแรกปี 57
ส่วนปี 56 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโต 40-50% หรืออย่างน้อย 1.4 พันล้านบาทจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.07 พันล้านบาท โดยในงวด 9 เดือนของปีนี้มีกำไรสุทธิแล้ว 1.1 พันล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว
"เราเชื่อว่ากำไรสุทธิปีนี้ทำได้ตามเป้าหมายที่โต 40-50% ...ตัวสามารถไอโมบายปีนี้ก็ได้มาร์จิ้นดีขึ้น ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา Air Traffic ที่กัมพูชาก็สูงขึ้น"นายวัฒน์ชัยกล่าว
ในปีนี้ กลุ่มสามารถ คาดว่า มีงานใหม่เข้ามาตามแผน ประมาณ 7-8 พันล้านบาท โดยในงวด 9 เดือนได้เซ็นสัญญางานใหม่แล้วจำนวน 4.5 พันล้านบาท และในต้นไตรมาส 4 นี้ เซ็นสัญญาไปแล้ว 2.2 พันล้านบาท ส่วนงานที่ล่าช้าไปก็ไม่ได้สูญเสียแต่จะเข้ามาในปีหน้า โดยในปีนี้งานขยายโครงข่าย 3จี เฟส 1 ของทีโอทีจะส่งมอบเสร็จสิ้นภายในปีนี้ที่จะครบ 5,000 สถานีฐาน ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/56 เป็นงวดสุดท้ายประมาณ 800 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆโดยเฉพาะการสร้างฐานรายได้ประจำ โดยล่าสุดประกาศเปิดตัวเสาอากาศและกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล(set top box)รุกตลาดในไตรมาส 4/56 คาดว่าจะสามารถจำหน่ายกล่องรับสัญญาณได้ 2 แสนกล่องภายในสิ้นปีนี้ กำหนดราคาขายไว้ที่ 1,155 บาท/กล่อง
ด้านสายธุรกิจ ICT solutions ภายใต้ บมจ.สามารถ เทเลคอม(SAMTEL)ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีงานรอการประมูลอีกกว่า 40 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6.5 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือแล้วกว่า 7 พันล้านบาท
สายธุรกิจ Mobile Multimedia ภายใต้การบริหาร บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) มั่นใจว่าในปีนี้จะมียอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโดยรวมไม่ต่ำกว่า 3.6 ล้านเครื่อง โดยในไตรมาส 4/56 จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีก 9 รุ่นในระดับพรีเมี่ยมราคาประมาณ 10,000 บาท/เครื่อง นอกจากนี้ ลูกค้า 3GX มีแนวโน้มเติบโตดีขี้นหลังเปลี่ยนกลยุท์การตลาดที่แถมซิมให้ใช้ฟรี ทำให้ปัจจุบันมียอดลูกค้า 4 แสนราย จากต้นปีนี้มี 8 หมื่นราย และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดถึง 5.5-6 แสนราย