สำหรับเงินลงทุนส่วนหนึ่งมาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน CPNRF มูลค่าราว 1 หมื่นกว่าล้านบาท แต่บริษัทต้องซื้อหน่วยลงทุนกลับราว 3 พันล้านบาท ก็จะเหลือเงินลงทุน 6-7 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินกู้สถาบันการเงินและกระแสเงินสดของบริษัท
ทั้งนี้ในปี 57 บริทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 15% จากปี 56 ที่คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 18-19% เกินกว่าเป้าที่คาดว่าจะโต 15% เนื่องจากในงวด 9 เดือนปีนี้รายได้รวมโตแล้ว 17-18% และไตรมาส 4 ยอดขายน่าจะดีต่อเนื่องเพราะเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง คือ เชียงใหม่ เป็นเซ็นทรัล เฟสติวัลจะเปิดพ.ย.นี้ และหาดใหญ่ ธ.ค.
"ปี 57 ถ้าการเมืองไม่รุนแรงเราก็จะโตต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยบวกในต่างประเทศก็ดีขึ้น สหรัฐดีขึ้น ยุโรปค่อยๆ กระเตื้องขึ้น ส่งผลให้การส่งออกน่าจะดีขึ้น และยิ่งถ้ารัฐบาลใช้เงินลงไปในระบบอินฟราสตรัคเจอร์ 2.2 ล้านล้านบาท ยิ่งเป็นปัจจัยบวก" นายนริศ กล่าว
นายนริศ กล่าวต่อว่า ในปี 57 บริษัทเล็งปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ของศูนย์การค้าเพิ่มอีก 7-8% ตามเงินเฟ้อและการเพิ่มขึ้นของคนที่เข้ามาเดินชอปปิ้ง
สำหรับการชุมนุมทางการเมืองในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เพราะคนยังเดินศูนย์การค้าปกติ ไม่กระทบเหมือนคราวที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงสิ้นเดือนนี้จะมีการสำรวจยอดขาย ซึ่งถ้าการชุมนุมยืดเยื้อคงจะกระทบบ้างแต่ถ้าไม่รุนแรง เป็นการชุมนุมปกติจะไม่กระทบมาก เชื่อว่าไม่น่าจะยืดเยื้อถึงเดือนธ.ค.
ส่วนโครงการที่ดินที่สวนลุมพินี บริษัทได้ยื่นประมูลที่ดินสวนลุมฯไปแล้ว โดยส่วนตัวอยากหาพันธมิตรต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุน เพื่อช่วยในด้านการเงินและด้านการตลาด