ขณะเดียวกันปี 57 ยังมีแผนที่จะปรับลดต้นทุนของเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย และออสเตรเลียลงอีกราว 3% จะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้น
สำหรับภาวะราคาถ่านหินได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เหมืองถ่านหินบางแห่งมีการปิดตัวลง แต่ความต้องการของตลาดยังเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์ในการขายให้ช้าลงในช่วงนี้ที่มีการขายล่วงหน้าไปยังไม่ถึง 30% จากช่วงปกติที่จะขายได้กว่า 50% แล้ว
"ช่วงนี้เราจะไม่เร่งรีบการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพราะราคาได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และช่วงต่อจากนี้ก็น่าจะค่อยๆปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง"นางสมฤดี กล่าว
ส่วนการควบรวมกิจการนั้น บริษัทฯจะไม่เร่งรีบ ซึ่งทางบริษัทฯจะมองหาการควบรวมกับบริษัทที่สร้างกระแสเงินสดได้อยู่แล้ว โดยหลังจากนี้บริษัทฯจะเน้นการหาบริษัทที่เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้า สำหรับเหมืองถ่านหินก็มองโอกาสในประเทศอินโดนีเซีย มองเหมืองที่มีพื้นที่ใกล้กับเหมืองเดิม เพื่อที่จะใช้สาธารณูปโภคร่วมกัน ซึ่งจะสามารถบริหารต้นทุนให้ต่ำลงได้