ขณะที่โครงการที่ 2 และโครงการที่ 3 ได้แก่ โครงการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด ประเทศอินโดนีเซีย มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ จำนวน 20 เมกะวัตต์ (MW) ประเทศลาว
สำหรับการดำเนินงานต่อไปจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นกับการหางานต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายระยะยาวในการก้าวขึ้นสู่บริษัทวิศวกรรรมและก่อสร้างในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทวางเป้าหมายระยะยาวปี 2557 — 2559 รายได้ของบริษัทจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 20 % จากงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2556 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 197.57 ล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 3.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2556 ที่บริษัทมีรายได้รวม 195.61 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิเท่ากับ 7.66 ล้านบาท โดยบริษัทมีการรับรู้โครงการก่อสร้างใหม่ที่ได้รับในไตรมาส 2 - 3 จำนวน 4 โครงการที่อยู่ระหว่างเริ่มดำเนินงาน ซึ่งมีการรับรู้รายได้เพียงประมาณ 10% ของมูลค่าสัญญา เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 778.16 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการทบทวนงบประมาณโครงการก่อสร้างใหม่ โดยปรับปรุงทุกโครงการที่มีการเปลี่ยนแปลงประมาณการ จากเดิมจะปรับปรุงเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 3% เพื่อให้มีต้นทุนใกล้เคียงความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม จากแผนร่วมกิจการ กับ บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAC) ส่งผลให้บริษัทเกิดค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มสูงขึ้น จากค่าที่ปรึกษากฎหมายและที่ปรึกษาการเงิน