สำหรับการดำเนินธุรกิจใน สปป.ลาว หลังจากได้ตั้งบริษัท แอลทีเอ็นดีที จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัทฯ และพันธมิตรในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไว้รองรับการขยายธุรกิจแล้ว
ล่าสุดบริษัทย่อยได้รับมอบหมายให้ศึกษาและวางแผนความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแผนแม่บท ณ เขตพัฒนาคังหนองหลวง แขวงเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งคาดว่าในช่วงแรก จะเป็นโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อเป็นรากฐานไปสู่การพัฒนาในด้านอื่นๆ ต่อไป ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าของโครงการในไม่ช้านี้
ส่วนการขยายฐานธุรกิจในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท ที เอ็น ดี ที ซี เอ็ม จำกัด บริษัทย่อยที่ TNDT ถือหุ้นร่วมกับพันธมิตรชาวไทยและพันธมิตรจากสหภาพเมียนมาร์ ขณะนี้ได้ดำเนินธุรกิจใน 3 โครงการ คือ โครงการเหมืองถ่านหิน โครงการเหมืองหิน และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 20 เมกกะวัตต์ บริเวณท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาร์ ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีความคืบหน้าไปมาก โดยโครงการเหมืองหินและเหมืองถ่านหินจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าได้รับการอนุมัติในเรื่องของที่ดินและสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลพม่า ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว ซึ่งโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ในช่วงปลายปี 2558
“โครงการขยายฐานธุรกิจในต่างประเทศคืบหน้าไปมากสำหรับในประเทศเมียนมาร์ ส่วน สปป.ลาว หลังจากที่มีความชัดเจนเรื่องการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแผนแม่บท ที่ทางการ สปป.ลาวกำหนดออกมาล่าสุดก็คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าของโครงการได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากทาง TNDT และพันธมิตรใน สปป.ลาว ได้เตรียมความพร้อมร่วมกันมาแล้วเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรร่วมกันเพื่อรองรับโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ทำให้เมื่อโครงการมีความชัดเจนก็สามารถเริ่มงานได้ทันที" น.ส.ชมเดือนกล่าว
ด้านการขยายธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบ โดยไม่ทำลายในประเทศ กรรมการผู้จัดการ TNDT กล่าวว่า ยังคงเดินหน้าเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รองรับกับการแข่งขันที่จะเข้ามาในอนาคตได้อย่างคล่องตัว ซึ่งถือเป็นนโยบายตั้งรับที่บริษัทฯ ดำเนินไปพร้อมๆ กับนโยบายเชิงรุกคือการเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว
“ธุรกิจในประเทศยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งทำให้เราพร้อมที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ๆ ในต่างประเทศได้ ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 3/2556 และงวด 9 เดือนแรกของปี เรายังสามารถสร้างรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้" กรรมการผู้จัดการ TNDT กล่าว
น.ส.ชมเดือน กล่าวว่า รายได้ในปีนี้คงโตตามเป้าหมายที่ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 336 ล้านบาท และในปี 57 ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตจากปีนี้ 20 % จากที่ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) 320 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 120 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 57
ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานวางท่อก๊าซ ความยาว 111 กิโลเมตร มูลค่าราว 50 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลในช่วงต้นปี 57 ซึ่งบริษัทฯประเมิณว่ามีโอกาสที่จะได้งานมากกว่า 50%
"เราได้เข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง และจะยังมีงานที่ได้รับจากลูกค้าเดิมๆอีก ในขณะเดียวกันเราก็ยังมีงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย ที่จะยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังจะมีงานขยายโครงการปิโตรเคมีในจังหวัดระยองที่ทางบริษัทฯจะได้งาน เราจึงมองว่าปีหน้าเราจะเติบโตได้กว่า 20 %"น.ส.ชมเดือน กล่าว
ทั้งนี้ TNDT แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2556 (กรกฎาคม-กันยายน 2556) ว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 103.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 93.17 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 26.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 24.38 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 262.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 246.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 58.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 54.26 ล้านบาท