"เราคุยกับรฟม.แล้ว ถ้ารฟม.ไม่เห็นดีด้วย เขาก็ไม่โหวตให้หรอก...ผู้ถือหุ้นใหญ่สนับสนุนกันหมด"นายพงษ์สฤกษดิ์ กล่าว
อนึ่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ BMCL ได้แก่ รฟม. ถือ 25% คาดใช้เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนราว 2.1 พันล้านบาท, CK ถือ 16.64% คาดใช้เงิน 1.42 พันล้านบาท บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) ถือ 10%
นายพงษ์สฤษดิ์ กล่าวว่า หากกรณีเลวร้ายที่ไม่มีรายใดเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน BMCL นั้น CK ก็พร้อมเข้าซื้อเต็มที่โดยที่ CK ต้องถือไม่เกิน 50% ซี่งคาดว่าจะใช้เงิน 8 พันล้านบาท และ CK ไม่ต้องทำเทนเดอร์ฯ ตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น BMCL ได้อนุมัติไว้
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนของ BMCL ทำให้ CK ได้รับเงินคืน 4.2 พันล้านบาท เหมือนได้แปลงหนี้เป็นการลงทุนในบริษัทที่มีอนาคตที่จะสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี ขณะที่ BMCL ไม่ต้องมีภาระดอกเบี้ยจากหนี้ส่วนนี้ปีละ 500 ล้านบาท นอกจากนี้ BMCL จะนำเงินคืนเจ้าหนี้ธนาคาร 2,350 ล้านบาท และอีก 2 พันล้านบาทนำไปลงทุนตัวหัวจักรและรถไฟฟ้ารองรับเส้นทางใหม่ ทั้งนี้ หนี้สินของ BMCL จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าจะกลับมามีกำไรใน 2-3 ปีข้างหน้าจากการเปิดให้บริการสายสีม่วง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) และในปีหน้า คาดว่าจะเปิดประมูลเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย 6
อนึ่ง BMCL กำหนดวันชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 9-16 ธันวาคม 56