"หลังจากที่บริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในปี 2553 การดำเนินธุรกิจของ เคเทค ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะหลังดึงผู้ร่วมทุนใหม่เข้ามาเป็นพันธมิตรและนำเงินทุนก้อนใหม่เข้ามาเสริมสภาพคล่องทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้อย่างคล่องตัวและสามารถรับงานใหม่ได้เพิ่มขึ้น"นางอายุพร กล่าว
ปัจจุบัน KTECH มีงานในมือ 7 โครงการ พื้นที่กว่า 120,000 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,800 ล้านบาท รวมถึงการเตรียมยื่นประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกหลายโครงการ โดยวางเป้าหมายภายในปี 2556 นี้ จะมีรายได้รวม 450 ล้านบาท และสามารถพลิกผลการดำเนินงานให้เป็นกำไรสุทธิได้สำเร็จ
อนึ่ง นับตั้งแต่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2553 ตามคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.15/2553 มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และทำให้ KTECH มีข้อจำกัดในการรับงาน ทั้งนี้ การดำเนินงานของ KTECH เริ่มดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างทั้งการถือหุ้นและด้านเงินทุนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมานายบี เตชะอุบล และนักลงทุนกลุ่มใหม่อีกจำนวนหนึ่งได้เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนและทำให้ KTECH มีเงินทุนบริหารกิจการเป็นมูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ KTECH สามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องได้และเข้าร่วมประมูลงานรับเหมาก่อสร้างจนได้รับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น