สำหรับผลประกอบการในปี 56 เชื่อว่าจะมีกำไรตามเป้าหมาย เนื่องจากไม่มีภาระการตั้งสำรองเหมือนปีก่อน ซึ่งทำให้ช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีมีกำไรแล้วราว 100 ล้านบาท รวมทั้งในปีนี้บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีได้ทั้งหมดแล้ว
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ AGE เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯจะมีปริมาณการขายราว 2.4-2.9 ล้านตัน เติบโตจากปี 55 ที่มีปริมาณการขายที่ 1.7 ล้านตัน ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 4/56 ทั้งปริมาณ และราคาที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นราว 6% จากไตรมาส 3/56 เนื่องจากช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้ความต้องการถ่านหินปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ในปี 57 บริษัทคาดว่าปริมาณการขายถ่านหินจะเติบโตราว 20% ซึ่งจะมีการสรุปแผนงานปีหน้าช่วงปลายเดือน พ.ย.56 ซึ่งคาดว่าความต้องการของจีน โดยเฉพาะเมืองที่ติดชายทะเลจะมีปริมาณการนำเข้าถ่านหินเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าถูกกว่าในประเทศ ในขณะเดียวกันในอินเดียก็ยังมีแนวโน้มความต้องการใช้ถ่านหินปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน จากการขยายโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนการส่งออกถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นเป็น 40% จากปีนี้อยู่ที่ 30%
นายพนม กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทฯจะมีผลการดำเนินงานเป็นกำไรแน่นอน หลังจากที่มีการล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดไปแล้ ว ในขณะเดียวกัน หลังจากมองว่าที่ราคาถานหินผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3/56 ที่ผ่านมา และราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองเพิ่ม โดยในชวง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทฯมีกำไรแล้ว 102 ล้านบาท