ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการใหม่นั้น ยังอยู่ในแนวทางการขยายธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทจะเน้นการซื้อกิจการในธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะได้รับทั้งแบรนด์ และสินทรัพย์ ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าที่จะมีโรงแรมทั้งหมด 160 โรงแรม จากปัจจุบันมีจำนวน 96 โรงแรม รวมทั้งตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนร้านอาหารเป็น 2,600 ร้าน จากปัจจุบัน 1,464 ร้าน และเพิ่มร้านค้าปลีกเป็น 350 ร้าน จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 256 ร้าน
บริษัทมองว่าการขยายธุรกิจต่อจากนี้ยังมีความสามารถในการหาเงินลงทุนโดยที่ไม่ต้องเพิ่มทุน เนื่องจากมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่เพียง 0.90 เท่า ซึ่งทางบริษัทยังมีทั้งเงินสดและความสามารถในการกู้จากสถาบันทางการเงิน
นายชัยพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับผลดำเนินงานในไตรมาส 4/56 เชื่อว่าทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 707 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าสถานการทางการเมืองในขณะนี้อาจจะกระทบกับรายได้ของธุรกิจโรงแรมช่วงปลายปีนี้ราว 10% แต่สถานการณ์ยังจำกัดพื้นที่อยู่ในกรุงเทพ และยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ดังน้น คงจะไม่ได้กระทบกับภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศมากนัก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจจากการพึ่งพารายได้ในประเทศเป็นหลัก โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า(ปี 57-61) ให้เป็น 45 % จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 36%