อย่างไรก็ตาม ยอดการให้เช่าพื้นที่โรงงานในปีนี้คาดว่าจะพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเพิ่มอีก 1.2 แสนตารางเมตร เหลือแค่ 1 แสนตารางเมตร เนื่องจากความต้องการลดลง โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากการสิ้นสุดโครงการรถคันแรกที่ทำให้เกิดการโอเวอร์ซัพพลายในช่วงนี้
ส่วนปี 57 คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะกลับมาเติบโตได้ปกติ ดังนั้น บริษัทจะยังตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่เช่าโรงงานใหม่ไว้ที่ 1.2 แสนตารางเมตรในปีหน้า เพราะเชื่อว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์จะฟื้นตัวได้ดี ตามการผลิตรถยนต์ของผู้ผลิตรายใหญ่ที่จะมียอดผลิตเพิ่มขึ้น
ขณะที่พื้นที่เช่าคลังสินค้า(Warehouse) ในปี 56 ยังคงเป้าหมายที่ 2.5 แสนตารางเมตร จากปัจจุบันทำได้แล้ว 2.2 แสนตารางเมตร และแนวโน้มคาดว่าจะเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะได้รับผลดีจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ที่ทำให้ความต้องการคลังสินค้าตามหัวเมืองต่างๆ เพิ่มขึ้น
ส่วนแผนการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมรัพย์ขนาดสินทรัพย์ 5.5-6 พันล้านบาทภายในปีนี้นั้น คาดว่าจะได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการสินทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ภายในสัปดาห์นี้และจะเสนอขายในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ย.56 ตามแผนงานที่กำหนดไว้ เพราะมั่นใจว่าจะขายได้หมดแม้ว่าจะมีปัจจัยการเมืองเข้ามากดดันตลาดหุ้นในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจาก บลจ.ไทยพาณิชย์ ในฐานะผู้บริหารกองทุนฯ ระบุว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่มีความต้องการซื้อทั้งหมด แต่หากขายไม่หมดทาง บล.ไทยพาณิชย์ก็พร้อมจะซื้อหน่วยลงทุนไว้เอง
"มองการเมืองเป็นแค่ผลกระทบระยะสั้น แต่นักลงทุนยังเข้ามาลงทุน เพราะไทยยังเป็นประเทศที่น่าดึงดูดเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ดีมานด์ของบริษัทยังดีอยู่"นางสาวลลิตพันธุ์ กล่าว