(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าพักตัวตามตลาดตปท., กังวล QE อีกครั้ง-การเมืองยังกดดัน

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังมีปัจจัยการเมืองกดดันอยู่ ซึ่งขณะนี้ความขัดแย้งก็เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินเรื่องที่มาของสว.ไปเรียบร้อยแล้ว

พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,395-1,415 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(20 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,900.82 จุด ลดลง 66.21 จุด (-0.41%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,781.37 จุด ลดลง 6.50 จุด (-0.36%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,921.27 จุด ลดลง 10.28 จุด(-0.26%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 100.57 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 9.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 39.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 6.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.53 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.31 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ไม่เปลี่ยนแปลง
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(20 พ.ย.)ที่ 1,404.81 จุด ลดลง 7.63 จุด(-0.54%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,035.28 ล้านบาท เมื่อ 20 พ.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(20 พ.ย.)ที่ 93.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.01 ดอลลาร์ฯหรือ 0.33%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(20 พ.ย.)ที่ 4.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดวันนี้ที่ 31.80/82 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าหลังดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุล
• ศาลรธน.มีมติ 6 ต่อ 3 ชี้กระบวนการพิจารณาแก้รธน.ปมที่มา ส.ว.มิชอบ และมีมติ 5 ต่อ 4 เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาขัดมาตรา 68 วรรคหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นยุบพรรค ปชป.รุกต่อเตรียมยื่นป.ป.ช. ถอดถอน 26 ส.ส.-50 ส.ว.จี้"สมศักดิ์-นิคม" ลาออก
• พรรคเพื่อไทย(พท.)จะประชุมพรรคในวันที่ 21 พ.ย.เพื่อประเมินสถานการณ์หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.มิชอบด้วยกฎหมาย เบื้องต้นผู้บริหารพรรคมีความเห็นร่วมกันว่านายกรัฐมนตรีไม่ควรตัดสินใจยุบสภาหรือลาออก ให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน
• นักเศรษฐศาสตร์-สภาตลาดทุนระบุคำตัดสินศาลมีผลกระทบเศรษฐกิจ-ตลาดหุ้นน้อย เหตุไม่ขั้นยุบพรรค แต่ไม่สามารถปลดล็อกการเมืองได้ แนะจับตาการชุมนุมของ 2 กลุ่มจะรุนแรงถึงขั้นเผชิญหน้ากันหรือไม่ ด้านหอการค้าห่วงการชุมนุมประท้วงไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ กระทบเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ
• ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากสุดรอบ 2 เดือนจากความกังวลการเมือง ขณะสศช.-แบงก์ชาติประเมินเศรษฐกิจปีหน้ากระเตื้อง จับตามาตรการคิวอี คาดเฟดส่งสัญญาณชะลอลด อาจส่งผลทุนไหลเข้าช่วงต้นปี
• นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทผ่านวุฒิสภาไปแล้ว แต่ยังมีกระบวนการอีกชั้นหนึ่งก่อนที่จะทำให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ ในระหว่างนี้ก็ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมของโครงการเอาไว้ก่อน
• เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า จากยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน 7.57 แสนล้านบาท ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ทำให้คาดว่ายอดทั้งปีจะต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 1 ล้านล้านบาทแต่เชื่อว่าจะถึงระดับ 9 แสนล้านบาทขณะที่ในปี 2557 ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนจะใกล้เคียงกับปีนี้ ยอดขอส่งเสริมฯจะไม่ต่ำกว่า 9 แสนล้านบาท
• แบงก์ชาติเผยการเมืองยังไม่กระทบสินเชื่อส่วนสินเชื่ออุปโภคบริโภค ระบุยังไม่มีปัญหา-การขยายตัวเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่สินเชื่อที่มียอดคงค้างมากกว่า 1 เดือน อยู่ที่ 2.69 แสนล้านบาท หากเศรษฐกิจยัง เติบโตดี และประชาชนมีเงินชำระหนี้ ก็ไม่เข้าข่ายน่าวิตก
• ก.ล.ต.คาดปีหน้านักลงทุนหน้าใหม่เข้าลงทุนตลาด"หุ้น-ตราสารหนี้"เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดทะลุ 1 แสนราย จากปีนี้ที่มีแนวโน้มเข้าเป้า 8-9 หมื่นราย หลังมีผลิตภัณฑ์การลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งหุ้นไอพีโอ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เผยมีแผนเพิ่มช่องทางการลงทุนกองทุนผ่านไปรษณีย์ และค้าปลีกทั้ง "เซเว่นอีเลฟเว่น" และเทสโก้โลตัส

*หุ้นเด่นวันนี้

• SVI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท ราคาหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีโอกาสได้รับปัจจัยหนุนในเชิง Sentiment จากบาทอ่อนค่าต่อเนื่องซึ่งประเมินว่าทุก 1% ที่อ่อนค่าจากสมมติฐานที่ 31.50 บาทจะทำให้ SVI มีกำไรปกติกำไรปกติใน 4Q56 เพิ่มขึ้น 4% นอกจากนี้เงินประกันความเสียหายน้ำท่วมราว 1,058 ล้านบาทคาดรับรู้ฯใน 4Q56 ราว 635 ล้านบาท ทำให้มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษในปีนี้
• KAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 10 บาท ใน 4Q56 คาดจะมีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านบาทใน 3Q56 แม้ว่ารวมทั้งปี 56 กำไรสุทธิจะลดลง 6% YoY เป็นผลจากการปรับโครงสร้างตัดธุรกิจเดิมที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอาง ทำให้ระยะสั้นมีผลให้ฐานค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ แต่จะส่งผลดี รวมทั้งการขยายช่องขายไปยังต่างประเทศ และร้านเซเว่นฯ ดันกำไรสุทธิปี 57 เพิ่มขึ้น 24% YoY
• TPIPL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 19 บาท ฐานะการเงินปัจจุบันแข็งแกร่ง หนี้ต่อทุนต่ำเพียง 0.14 เท่า ทำให้ 2 ปีข้างหน้ามีการลงทุนร่วม 2 หมื่นล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจ ทำให้หลังจากปี 58 กำไรจะเติบโตโดดเด่นมากขึ้น ธุรกิจที่ลงทุนใหม่จะข่วยเพิ่มยอดขายถึง 50% และเพิ่มกำไรมากกว่า 100% เทียบกับประมาณการปี 57 อย่างไรก็ตาม ประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมให้ยอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 8-10%
• SCC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 540 บาท SCG Chemicals ร่วมทุน A. Schulman ผลิต Rotational molding compound เป็นวัตถุดิบผลิตพลาสติกชิ้นงานขนาดใหญ่ เพื่อขยายตลาดเอเซีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง คาดยอดขาย 3,000 ล้านบาทต่อปี มองว่า SCC ยังคงเน้นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจโดย M&A โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีที่มีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ปัจจุบันมีบริษัทลูกและบริษัทร่วมกว่า 240 แหล่ง กระจายอยู่ในเอเซียช่วยให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง