ปธ.สภาธุรกิจฯคาด SET Index ปี 57 ดีดขึ้นไป 1,600 จุดได้หลังศก.ไทยดีตามโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 21, 2013 12:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาดว่า ทิศทางดัชนีหุ้นไทยปี 57 จะปรับตัวขึ้นไปที่ 1,600 จุดได้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นและเศรษฐกิจไทยก็จะดีขึ้นตาม ส่วนปัจจัยเสี่ยงในปีหน้ายังเป็นปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาดูว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นได้เร็วมากน้อยแค่ไหน แต่หากสถานการณ์การเมืองมีความรุนแรงจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็อาจทำให้ดัชนี SET ปีหน้าต่ำกว่า 1,400 จุดได้

พร้อมมองว่าการลงทุนในตลาดทุนไทยขณะนี้ยังคงไม่ดีขึ้น สาเหตุจากนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศขณะนี้ที่เริ่มมีการยกระดับการชุมนุม ซึ่งหากการเมืองมีความชัดเจนขึ้นก็เชื่อว่าดัชนีจะรีบาวด์ขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานการณ์ทางการเมืองคงยังวุ่นวายในช่วง 1-2 เดือนเท่านั้น และในปี 57 ก็จะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาแทน อีกทั้งนักลงทุนยังจำเป็นต้องเข้ามาลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

ทั้งนี้ มองว่าดัชนี SET น่าจะมีโอกาสรีบาวด์ไปที่ 1,400-1,500 จุดภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนน่าจะมีกำไรเติบโตที่ประมาณ 15% ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามามาหนุนตลาดหุ้นไทยชัดเจน

นายไพบูลย์ ยังแนะนำว่า การลงทุนในระยะสั้นยังมีความเสี่ยง แต่หากเป็นการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในปีหน้าก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยควรลงทุนในกลุ่มอุปโภคและบริโภค กลุ่มส่งออก และปิโตรเคมี ซึ่งในปีหน้าจะได้รับความสนใจอย่างมาก

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเชีย พลัส(ASP) กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของส.ว.กลับยิ่งสร้างความไม่ชัดเจนและสร้างความผันผวนให้กับสถานการณ์การเมืองมากขึ้น โดยสะท้อนถึงความแตกแยกของคนในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่กดดันตลาดทุน เพราะนักลงทุนอยากเห็นความสามัคคีที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม หากปัญหาการเมืองคลี่คลายจะยิ่งเป็นผลดีและช่วยสร้างความชัดเจนต่อประเทศ เพราะปัจจุบันภาคการลงทุนเกิดขึ้นน้อยและชะลอตัวจากปัจจัยทางการเมือง

ที่ผ่านมาประเทศไทยขาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มาเป็นเวลาหลายปี จึงมีผลต่อความน่าสนใจของการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้น หากต้องการให้ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ รัฐบาลจะต้องผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นตลาดหุ้นไทยจะถูดลดอันดับความน่าสนใจลงอีก

อย่างไรก็ดี นายก้องเกียรติ ยอมรับว่า ได้มีการปรับลดประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เปีนี้หลือเพียงเติบโต 8% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 25% ขณะที่ปีหน้าคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากเดิมที่ 15% เนื่องจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว จะส่งผลให้ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว อย่างเช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งจะดึงเม็ดเงินลงทุนระยะสั้นกลับเข้าไปในประเทศกลุ่มนี้ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ