ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้เซ็นสัญญาโครงการรถไฟและท่าเรือกับประเทศโมซัมบิก มูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ราวต้นเดือนธ.ค.นี้ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 58 ขณะที่ในปี 57 จะมีงานจากโครงการลงทุนภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท บริษัทประเมินว่าจะได้รับงานในส่วนนี้ประมาณ 10% หรือราว 2 แสนล้านบาท และโครงการบริการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งประมูลได้แล้วแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา แต่คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือน ม.ค.57 ดังนั้น หากมีงานเข้ามาเพิ่มมากขึ้น บริษัทอาจจะจำเป็นต้องระดมทุนเข้ามาเพิ่มหรือออกหุ้นกู้มารองรับ
ขณะที่บริษัทคาดว่าจะได้รับคืนเงินที่ได้ลงทุนไปในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายประมาณ 6 พันล้านบาท หลังทำ due แล้วเสร็จพ.ค.57 คาดว่าจะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนต่อเนื่องหากได้งานพัฒนาเฟสแรกของโครงการทวายที่คาดว่ามีมูลค่าโครงการประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยจะหาพันธมิตรเข้าร่วมประมูล ซึ่งเบื้องต้นได้เจรจากับ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) ให้เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรรายหนึ่งแล้ว