ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในเนื้อหาร่างสัญญากรอบการดำเนินโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายฉบับใหม่ และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในสัญญาดังกล่าวระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (DSEZ Authority) กับบริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือ SPV ที่ถือหุ้นร่วมกันระหว่างไทยและเมียนมาร์ ร่างกรอบดำเนินการฉบับใหม่จะให้สิทธิ SPV เป็นผู้ประสานงานหลักและที่ปรึกษาของ DSEZ Authority ซึ่งรวมถึงการเชิญชวนและเสนอรายชื่อนักลงทุนที่มีศักยภาพ เพื่อให้ DSEZ Authority คัดเลือกเป็นผู้ลงทุนในโครงการภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในเนื้อหาร่างสัญญาสามฝ่ายระหว่าง บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนท์ (ITD), DSEZ Authority และ SPV ที่ระบุถึงสิทธิการดำเนินงานที่เหลืออยู่ของ ITD ก่อนส่งมอบงานให้ SPC ที่จะเข้ามาในอนาคต ซึ่งที่ประชุมได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาดังกล่าวด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการคัดเลือกผู้รับสัมปทานโครงการในระยะแรก ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ 1) ถนน 2 ช่องทางเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายกับชายแดนไทย 2) ท่าเรือขนาดเล็ก และ 3) นิคมอุตสาหกรรมระยะแรก รวมทั้งสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่จำเป็น โดยกำหนดส่งข้อเสนอการพัฒนาโครงการภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และคาดว่าจะสามารถให้สัมปทานโครงการระยะแรกแก่ผู้ที่ได้รับคัดเลือกภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 ในขณะเดียวกันคณะทำงานร่วมไทย-เมียนมาร์จะร่วมกันพิจารณารูปแบบการลงทุนอื่นที่มีความเหมาะสมควบคู่กันไปด้วย
และที่ประชุมยังเห็นชอบให้ผลักดันกิจกรรมหลักๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนมาพัฒนาโครงการระยะแรก เช่น การทำ Due Diligence ของ ITD การจ้าง Project Management Officer และการทบทวนแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รวมทั้งเชิญชวนนักลงทุนจากญี่ปุ่นเข้าร่วมยื่นข้อเสนอพัฒนาโคงการระยะแรกด้วย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือ SPV ที่ถือหุ้นร่วมกันระหว่างไทยและเมียนมาร์ ร่างกรอบดำเนินการฉบับใหม่จะให้สิทธิ SPV ซึ่งเรื่องที่ต้องดำเนินการเป็นสิ่งแรกคือการจัดทำ TOR เพื่อประมูลผู้ที่เข้ามาดำเนินโครงการทวายในเฟสแรกให้ทันเดือนก.พ.57 คาดว่าจะสรุปผู้ได้รับคัดเลือกเดือนเม.ย.57 ซึ่ง ITD ก็สามารถเข้าร่วมการประมูลได้
ส่วนในโครงการอื่นๆ จะจ้างที่ปรึกษามาทบทวนแผนหลักในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย แต่แผนใหม่จะไม่แตกต่างจากแผนเดิมมากนักโดยเฉพาะสาระสำคัญจะยังคงอยู่ โดย SPV จะได้รับสิทธิในการถือครองที่ดินในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 75 ปีและสามารถต่ออายุได้อีก 25 ปี
ด้านท่าทีของรัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าร่วม SPV หรือไม่นั้น นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ทั้งภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นก็ได้แสดงความสนใจอยากเข้าร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม องค์การส่งเสริมการค้าธุรกิจระหว่างประเทศ (JETRO) จะประกาศความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุมญี่ปุ่น-อาเซียนซัมมิทที่จะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเข้ามาลงทุนในเฟสที่ 2 เนื่องจากต้องการรอให้การพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายเรียบร้อยก่อน