ประกอบกับ มีปัจจัยต่างประเทศเข้ามากดดันอีกทางหนึ่งที่คาดธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดมาตรการ QE ในการ ประชุมถัดไป(ธ.ค.)ซึ่งต้องติดตามตัวเลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ โดยปัจจัย QE คงเป็นปัจจัยถ่วงสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งตลาดหุ้นต่าง ประเทศและตลาดหุ้นไทย อีกทั้งแรงขายนักลงทุนต่างชาติกดดันถึงสัปดาห์หน้า
แต่หากมองสัญญาณทางเทคนิคเป็นสัญาณ over sold คาดว่าพรุ่งนี้อาจรีบาวด์ได้ แต่คาดจำกัดในกรอบให้แนวต้านที่ 945 จุด แนวรับที่ 920 จุด แนะนำให้เน้นฝั่ง short
ส่วนราคาทองคำหลุดระดับ 1,270 เหรียญ/ออนซ์ และลงมาทดสอบที่ระดับ 1,240 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดใน รอบ 4 เดือน ทั้งนี้ มองว่าทิศทางปรับตัวลดลงต่อได้หากคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ทำให้ราคาทองคำไม่น่าจะผ่านระดับ 1,250-1,260 เหรียญ/ออนซ์ และคาดว่าราคาปรับลงมาที่ระดับ 1,225-1,220 เหรียญ/ออนซ์ อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อ เทียบกับเงินสกุลหลักอื่น รวมทั้งกองทุนอีทีเอฟทองคำได้เริ่มปรับสถานะทองคำลง โดยในช่วง 1-2 วันนี้ปรับลง 4-5 ตัน
สำหรับ Gold Future อาจะได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า แต่ก็ยังเห็นว่าเป็นทิศทางลง โดยให้แนวต้านไว้ที่ 19,100-19,200 บาท แนวรับที่ 18,800-18,700 บาท แนะเล่นฝั่ง short
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 940.41 จุด ลดลง 20.25 จุด, -2.11%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 80,860 430,590 Total Futures 80,689 425,928 Brent Crude Oil 127 184 Metal 10,131 12,282 - 50 Baht Gold 1,981 4,095 - 10 Baht Gold 8,149 8,174 - Silver - 13 USD 365 5,911 Interest Rate - - SET50 Index 17,412 33,736 Sector Index Futures - - Single Stock 52,654 373,815 Total Options 171 4,662 SET50 Index 171 4,662 Call 91 1,661 Put 80 3,001 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -17,656 -1,477 -16,179 Options -4 +8 -4