(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นหลังร่วงแรง แต่การเมืองกดดันส่งผลให้เกิดแรงขาย

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังมีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้บ้างตามตลาดเพื่อนบ้าน และเมื่อวานนี้ตลาดฯก็ได้ปรับตัวลงแรง แต่เมื่อขึ้นมาก็คงจะโดนแรงขายทำกำไรออกมา นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติก็ยังขายหุ้นไทยออกมามากขึ้นด้วย อีกทั้งขณะนี้แนวโน้มของตลาดฯอยู่ในทิศทางที่จะลง

ด้านต่างประเทศก็ไม่ได้มีอะไรมาก แม้จะมีความกังวลเรื่องการลดขนาด QE บ้าง แต่ตลาดก็ยังปรับตัวขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับดาวโจนส์ที่ขึ้นทำ New High เมื่อวานนี้ ที่ระดับ 16,000 จุด

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,350-1,337 จุด ส่วนแนวต้าน 1,386 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(21 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,009.99 จุด เพิ่มขึ้น 109.17 จุด (+0.69%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,795.85 จุด เพิ่มขึ้น 14.48 จุด (+0.81%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,969.15 จุด เพิ่มขึ้น 47.88 จุด(+1.22%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 147.85 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 171.99 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.60 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.76 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ลดลง 2.27 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(21 พ.ย.)ที่ 1,375.86 จุด ลดลง 28.95 จุด(-2.06%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,118.93 ล้านบาท เมื่อ 21 พ.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(21 พ.ย.)ที่ 95.44 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ฯหรือ 1.69%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(21 พ.ย.)ที่ 3.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดวันนี้ที่ 31.79/81 ยังกังวลการลดขนาด QE-การเมือง
• ป.ป.ช.มีมติตั้งกรรมการป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวนคำร้องถอด "สมศักดิ์- นิคม" พ่วงคำร้องคดีอาญา 308 ส.ส.-ส.ว. ปมลงชื่อเสนอร่างแก้รธน.ที่มาส.ว ด้านประธานรัฐสภาไม่หวั่น "เพื่อไทย" เล็งหาช่องฟ้องกลับตุลาการศาลรธน.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
• ไทย - พม่าเซ็นสัญญาเพิ่ม 3 ฉบับเดินหน้า เฟสแรกโครงการทวาย ดึงสิทธิสัมปทานคืนจากไอทีดี พร้อมเปิดประมูลต้นปี 2557 "นิวัฒน์ธำรง" เผยมีการจ้างที่ปรึกษาศึกษาคืนเงินไอทีดีเป็นธรรม ขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมใช้เวทีอาเซียน - ญี่ปุ่น ประกาศท่าทีต่อโครงการทวายกลางเดือน ธ.ค.นี้ ด้าน "เปรมชัย" รับข้อตกลงใหม่ ลั่นพร้อมประมูลทุกโครงการ คาดได้เงินคืนไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านพร้อมดอกเบี้ย เล็งรุกโปรเจค แรกจับมือโรจนะ พัฒนา นิคมฯแสนล้านบนพื้นที่ 30,000 ไร่
• บริษัท โกลด์แมน แซคส์ โบรกเกอร์ชั้นนำของสหรัฐได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นต่ำกว่าตลาด จากเดิมให้น้ำหนักเท่ากับตลาด เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องนโยบายของรัฐและภาพรวมของเศรษฐกิจมหภาคส่งผลต่อการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน(บจ.) รวมถึงมูลค่าหุ้นลดลง
• สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์จัดการสัมมนาประจำปี เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ในหัวข้อ "โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจไทย ทำอย่างไรให้ไปโลด" โดยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่ผ่านการตีความจากศาลรัฐธรรมนูญซึ่งรัฐบาลควรกลับมาใช้วิธีเสนองบประมาณตามขั้นตอนปกติของรัฐวิสาหกิจ
• เวิลด์แบงก์รับส่งออกไทยทรุดกว่าที่คาด เตรียมปรับประมาณการจีดีพีทั้งปีลง พร้อมจับตาการเมืองหากรุนแรงกระทบเชื่อมั่น-ท่องเที่ยว แนะรัฐเร่งเบิกจ่ายพยุงเศรษฐกิจ ด้านกสิกรฯแนะแนวทางรับมือเงินทุนผันผวน
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)รายงานยอดคงค้างหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทั้งระบบจำแนกตามประเภทธุรกิจ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ พบว่า มีเอ็นพีแอลทั้งระบบเพิ่มขึ้น 2,431 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้าที่มี 2.64 แสนล้านบาท หรือ 2.20% ของสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 2.66 แสนล้านบาท หรือ 2.22% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3 ปีนี้
• นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค. คลังจะปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ลงจากที่ประมาณการไว้เดิม 3.7% ต่อปี เป็น 3% หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับตัวเลขจีดีพีไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากการส่งออกขยายตัวได้ 0% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัว

*หุ้นเด่นวันนี้

• GLOBAL(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 22.40 บาท การเติบโตของกำไรสุทธิในระยะยาวโดดเด่นที่สุดในกลุ่มค้าปลีกที่ศึกษา โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 47% ต่อปี บนสมมติฐาน SSS growth 7% ต่อปี และเปิดสาขาต่อปี 12 สาขา และแม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศอ่อนแอกว่าที่เรา บนสมมติฐานกรณีที่ SSS growth อ่อนตัวลงเหลือ 5% และเปิดสาขาใหม่ลดลงเหลือ 10 สาขา พบว่าผลประกอบการ 3 ปีข้างหน้ายังคงเติบโตเฉลี่ยถึง 43%
• THCOM (เคเคเทรด)"ซื้อไกงกำไร"เป้า 42 บาท เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มสื่อสาร จากแนวโน้มของการการดำเนินงานที่จะโดดเด่นต่อเนื่อง โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 2556 ไว้ที่ 1.34 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 669% YoY และในปี 2557 ไว้ที่ 1.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% YoY บนสมมติฐานการขยายตัวของรายได้ในปี 2557 ใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทที่ 10-15% ขณะที่ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นจะอยู่ที่กำหนดการยิงดาวเทียมไทยคม 6 ในช่วงกลาง ธ.ค.2556
• TRU (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 10 บาท มีจุดเด่นในแง่ครบวงจรมากสุดเมื่อเทียบกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ จึงมีศักยภาพจะได้ทำงานขนาดใหญ่ในอนาคต เช่นกำลังเจรจาร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อผลิตตัวถังรถบรรทุกขนาดใหญ่แบบสั่งต่อคาดจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1/57 TRU มีฐานการเงินแข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้เงินกู้
• AOT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 242 บาท คณะกรรมการ AOT เห็นชอบข้อเสนอในการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ทั้งนี้ ข้อเสนอสำหรับค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินระหว่างประเทศ อยู่ที่ 800 บาท เพิ่มขึ้น 14% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 700 บาท ส่วนในประเทศทาง AOT ขอปรับขึ้น 100% เป็น 200 บาท ซึ่งบริษัทคาดจะได้รับอนุมัติจากกรมการบินพลเรือนในธ.ค.นี้ สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 56 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 16% และคาดว่า AOT เป็นบริษัทหนึ่งที่จะได้รับประโยชน์ระยะยาวจากการเปิด AEC ถ้าปรับขึ้นค่าธรรมเนียมได้ ราคาพื้นฐานจะเพิ่มเป็น 266 บาท