นายสุรพันธ์ ปูรณคุปต์ ผู้จัดการ ฝ่ายทุนธนกิจ สายวานิชธนกิจ BBL ในฐานะ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร เปิดเผยว่า การเสนอขายพันธบัตรของกระทรวงการคลังแห่งสปป.ลาว ในครั้งนี้ จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น โดยพันธบัตรมีมูลค่ารวมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ราคาหน่วยละ 1,000 บาท กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 500,000 บาท ต่อชุด และเป็นทวีคูณของ 100,000 บาท
เสนอขายพันธบัตรทั้งหมด 2 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 พันธบัตรอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย ประมาณ 4.60-4.70% ต่อปี และชุดที่ 2 พันธบัตรอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย ประมาณ 5.10-5.20% ต่อปี โดยพันธบัตรทั้ง 2 ชุด จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน
ในการเสนอขายในครั้งนี้เป็นการนำเสนอพันธบัตรชุดอายุ 5 ปีของกระทรวงการคลังแห่งสปป.ลาวแก่ผู้ลงทุนไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น และบรรลุวัตถุประสงค์ของสปป.ลาวที่ต้องการแหล่งเงินทุนระยะยาว และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลาว (Government Bond Yield) อีกด้วย
ธนาคารเชื่อว่าการเสนอขายพันธบัตรในครั้งนี้จะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ เนื่องจากเป็นพันธบัตรของประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตของภาคการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำและภาคเหมืองแร่ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของสปป.ลาวและเป็นประเทศที่ผู้ลงทุนไทยรู้จักและมีความคุ้นเคย ทั้งนี้ กระทรวงการคลังแห่งสปป.ลาวจะนำเงินทุนที่ได้จากการเสนอขายพันธบัตรไปใช้ในกิจการทั่วไปของกระทรวง และร่วมลงทุนในระบบสาธารณูปโภคเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรลาวต่อไป
นายจรินทร์ พินธุโสภณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ TMB ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร และ Coordinator เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังแห่งสปป. ลาวมีความประสงค์ที่จะเสนอขายพันธบัตรสกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการเสนอขายพันธบัตรสกุลเงินบาทในครั้งแรกโดยทีเอ็มบี มูลค่า 1,500 ล้านบาท เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ในขณะนั้นมีผู้สนใจจองซื้อเข้ามาสูงถึง 2.7 เท่า หรือกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าพันธบัตรของกระทรวงการคลังแห่งสปป.ลาวในครั้งนี้จะไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เสนอขายในครั้งก่อน เนื่องจากได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษจากกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไทย แต่เชื่อว่าด้วยเสถียรภาพทางการเมือง ความมั่นคงทางการคลัง และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของสปป.ลาว จะเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนในแง่ของความสามารถในการชำระหนี้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับพันธบัตรที่เสนอขายในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสและช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนที่สนใจในพันธบัตรของประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดรวมถึงเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว ซึ่งสอดรับการเปิดประชาคมอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้