"ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล"แนะพักเงินกองตราสารหนี้ช่วงการเมืองกดดันตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 25, 2013 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างมาก มาจากสถานการณ์ทางการเมืองไทยที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นและเทขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งสัญญาณของเฟดอาจว่ามีความเป็นไปได้ที่จะลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทำให้ SET Index (22 พ.ย.56) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1359.07 จุด หรือตลอดเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงมากว่า 4.89%

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ปรับประมาณการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 56 จะเติบโตได้เพียง 3% เท่านั้น จากเดิมที่คาดว่าเติบโตได้ที่ระดับ 3.8-4.3% มาจากการลงทุนในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท และระบบบริหารจัดการน้ำภาครัฐ 3.5 แสนล้านบาทที่ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ รวมถึงการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว ส่วนภาคการส่งออกไทยจะไม่มีการขยายตัว

ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองไทยและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจไทยจะเป็นปัจจัยต่อการทบทวนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(R/P)ของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่จะมีถึงในวันที่ 27 พ.ย.นี้และนับเป็นรอบสุดท้ายของปี ซึ่งคาดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป และมองว่าอัตราดอกเบี้ยไทยจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องต่อไปจนถึงกลางปี 57

"เรามองว่าภายใต้ภาวะที่ตลาดหุ้นขาดเสถียรภาพและมีความผันผวน การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก หรือนักลงทุนที่ต้องการรอจังหวะกลับเข้าไปลงทุนต่อในตลาดหุ้นเมื่อตลาดหุ้นมีการปรับฐานและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ภาวะดอกเบี้ยที่จะมีแนวโน้มทรงตัวต่อไปในระดับหนึ่ง การลงทุนในตราสารหนี้ที่ลงทุนในประเทศและต่างประเทศจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้"นายจุมพล กล่าว

กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม (iDAILY) เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ จุดเด่นอยู่ที่กลยุทธ์การบริหารกองทุนที่มีความยืดหยุ่นในการบริหารกว่ากองทุน Money Market ทั่วไป โดยผู้จัดการกองทุนสามารถใช้กลยุทธ์ Enhanced Strategy เช่น การลงทุนตราสารต่างประเทศชั้นดี หรือการปรับเพิ่มสัดส่วนของตราสารที่ยาวขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มผลตอบแทน ในขณะเดียวกันมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด กองทุนนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขาย สามารถทำการซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ

"กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนน่าสนใจหากเปรียบเทียบกับผลตอบแทนของเงินฝากและการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน โดยนับตั้งแต่ต้นปีมีผลตอบแทนอยู่ที่ 2.66% ต่อปี เทียบกับดัชนีเปรียบเทียบที่ 2.63% ต่อปี แต่หากพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.79% ต่อปี ดัชนีเปรียบเทียบ 2.72% ต่อปี (ณ 27 ตุลาคม 2556) ด้วยกลยุทธ์การลงทุน Enhanced Return เราเชื่อว่ากองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม (iDAILY) จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กองทุนนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงต่ำ และเหมาะสำหรับการพักเงินระยะสั้น เพื่อรอจังหวะในการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นๆ อีกทั้งผลตอบแทนก็มีโอกาสที่จะสูงกว่าเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในระยะเวลาเดียวกันอีกด้วย" นายจุมพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ